Tag: ร้านเด็ดเดลิเวอรี่

ไหนใครที่มีแพลนขึ้นเหนือไปรับลมหนาวที่เชียงใหม่บ้างงงงง ยกมือขึ้น เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่หลายๆคนคนอยากจะมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเหลือเกิน นอกจากแหล่งท่องเที่ยวแล้ว แหล่งช้อปปิ้งที่นี่ก็ไม่แพ้ที่ไหนๆแน่นอนค่ะ วันนี้เลยเราจะมาแนะนำ แหล่งรวมทั้งของกิน ของใช้ ไปจนถึง ของฝาก กับตลาดสุดฮิตของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวมาฝากกันค่ะ

1.ตลาดวโรรส (กาดหลวง)

ตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเชียงใหม่เลยค่ะ และเป็นตลาดเก่าแก่มานานกว่าร้อยปี ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ ก็จะต้องแวะมาซื้อของฝากกันที่นี่ ที่นี่มีสินค้าต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะของฝากที่เป็นอาหารพื้นเมือง อย่าง ไส้อั่ว แหนม น้ำพริกหนุ่ม รวมไปถึงผัก ผลไม้แปรรูปต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมอาหารพื้นเมืองราคาถูกอีกด้วยนะคะ

พิกัด : ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

2.One Nimman

เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะมีความโดดเด่นมากๆ ด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาร่วมสมัยที่ผสมผสานเข้ากันกับแนวตะวันตก ภายในก็จะรวบรวมร้านอาหาร พื้นที่แสดงศิลปะ คาเฟ่ ร้านนั่งชิล และร้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ไว้อย่างครบครัน ที่สำคัญมีมุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ

พิกัด : ถนนนิมมานทร์เหมินทร์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้เข้าชม : 10.00-22.00 น.

3.ถนนคนเดินท่าแพ

เป็นถนนคนเดินยุคแรกๆ และยังเป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่อีกด้วยค่ะ ร้านค้าและสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายกันก็จะมีทั้งสินค้าพื้นเมือง เสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ รวมถึงมีโชว์ดนตรี การแสดงเล็กๆ ว่ากันว่าใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ และไม่ได้ไปเดินถนนคนเดินท่าแพ ก็ถือว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่เลยนะคะ

พิกัด : ถนนราชดำเนิน ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้เข้าชม : 17.00-22.00 น. (ทุกวันอาทิตย์) 

4.บ้านข้างวัด

เป็นแหล่งช้อปปิ้งสไตล์พื้นเมือง ที่ตั้งอยู่ในซอยวัดอุโมงค์ เจ้าของที่นี่ต้องการ สร้างชุมชนให้มีวิถีชีวิตขึ้นมา เน้นการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันเหมือนกับผู้คนในสมัยก่อน ร้านค้าของที่นี่ส่วนใหญ่จะเน้นขายของแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้านต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม workshop สนุกๆ ในแต่ละเดือน ให้ได้ทำกันอีกด้วย

พิกัด : 191 ถนนบ้านร่ำเปิง ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

5.กาดหน้ามอ

เป็นแหล่งรวมสินค้าวัยรุ่นที่อยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีสินค้าขายทั้ง เสื้อผ้า กางเกง เครื่องประดับ แว่นตา นาฬิกา เครื่องสำอางค์ อุปกรณมือถือ กระเป๋า รองเท้า ซึ่งกาดแห่งนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่และกว้างมากค่ะ และแน่นอนว่าตั้งอยู่ใกล้มหาลัยแบบนี้ ก็เป็นที่นิยมของทั้งนักศึกษามช.และคนวัยทำงานในบริเวณนี้เลยค่ะ

พิกัด : ถนนห้วยแก้ว ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้เข้าชม : 16.00-23.00 น.

เครดิตภาพ : When OR Where

#อร่อยเด็ด #เชียงใหม่ #แหล่งช้อป

ปัจจุบันในบ้านเรามีร้านอาหารเกิดขึ้นหลายประเภทหรือจะพูดได้ว่ามีอาหารนานาชาติให้ได้รับประทานกันเลยทีเดียว และอาหารฝรั่งก็เป็นอีกรายการอาหารหนึ่งที่คนไทยนิยมรับประทานไม่ใช่น้อยเช่นกัน สำหรับใครที่กำลังอยากลองลิ้มชิมรสร้านอาหารฝรั่งที่มีรสชาติอร่อย อาหารน่ารับประทานบรรยากาศดีๆ วันนี้เรามีมาแนะนำกันค่ะ ถ้าสนใจตามมาดูกันต่อนะคะ

ร้านดีนแอนด์เดลูก้า (Dean & Deluca)

เป็นร้านอาหารฝรั่งที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 5 ทุ่ม โดยร้านจะตั้งอยู่ระหว่างถนนสีลมและสาธร ถ้ามารถไฟฟ้าให้ลงสถานีช่องนนทรี และสำหรับที่นี่ในแต่ละเดือนจะมีเมนูอาหารพิเศษหมุนเวียนเปลี่ยนมาให้เราได้ทานกันโดยตลอด เมนูอาหารอร่อยที่อยากจะแนะนำของที่นี่ก็อย่างเช่น 

– Egg Benedict smoked salmon ที่ทำมาจากเนื้อปลาแซลมอนเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งที่คลุกเคล้ากับเครื่องเทศทำให้ได้รสชาติที่อร่อยถูกปากคนไทย

– Bacon Egg Avocado Sandwich เป็นแซนวิชที่ทางร้านจะใช้เป็นขนมปังอบเสิร์ฟคู่กับไข่ดาวแบบไม่สุก พร้อมหน่อไม้ฝรั่ง เบคอน และอโวคาโด้ 

– Dean&Deluca Waffle รสชาติหวานหอมอร่อย เสิร์ฟพร้อมเบอรี่และราดซอส สำหรับแป้งที่ใช้จะเป็นของทางร้านเอง ถ้าสนใจเราสามารถขอซื้อแป้งแล้วนำกับไปทำทานที่บ้านกันได้อีกด้วย 

ร้าน ซิสเลอร์ Sizzler

สำหรับร้านนี้ก็เป็นร้านอาหารฝรั่งอีกร้านที่มาเปิดในบ้านเรานานพอสมควร และยังได้รับความนิยมจากคนไทยไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว สำหรับที่นี่จะมีอาหารฝรั่งอยู่หลายประเภทโดยเฉพาะ สเต็กที่จะเป็นสเต็กเนื้อนุ่มรสชาติอร่อย มีให้เลือกหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ทีโบนสเต็ก, สเต็กหมูพริกไทยดำ, สเต็กเนื้อสตริปลอยน์จานร้อน และสำหรับเมนูอาหารอื่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็อย่างเช่น ไก่ย่างสไปซี่, ซี่โครงหมูบาร์บีคิว, ไก่ย่างเซาท์เวสต์  นอกจากนี้เมื่อคุณสั่งอาหารจานหลักยังสามารถเลือกตักสลัดที่มีให้เลือกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้สดๆ ซุบรสอร่อยที่หมุนเวียนเปลี่ยนมาให้ได้ชิมรสชาติกันตลอดเดือน รวมไปถึงช็อคมูส และเยลลี่ จากเคาเตอร์สลัดบาร์กันได้แบบไม่อั้นอีกด้วย และที่สำคัญร้านซิสเลอร์ยังมีอยู่ด้วยกันหลายสาขาทำให้คุณสามารถเลือกรับประทานกันได้อย่างสะดวกสบาย แต่บางช่วงเวลาคนจะค่อนข้างเยอะถ้าไม่อยากรอนานอย่าลืมโทรไปสำรองที่นั่งกันก่อนด้วยนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างค่ะ คราวนี้ถ้าอยากทานอาหารฝรั่งรสชาติอร่อยก็อย่าลืมนึกถึงสองร้านนี้กันด้วยนะคะ รับรองได้เลยว่าเมื่อได้ลองลิ้มชิมรสกันแล้วคุณจะต้องติดใจและอยากหาเวลามารับประทานกันอีกอย่างแน่นอน ใครอยากชมรีวิวเพิ่มเติมของแต่ละร้านคลิกตามลิ้งค์กันได้เลยนะคะ 

เครดิตภาพ : blog.reviewthailand.net

#ร้านเด็ดสั่งเลย #ร้านอาหารฝรั่ง #ร้านดัง

Layer cake หรือ cake หลายชั้น เป็นความฝันของคู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่อยากจะมีไว้ประดับในงานแต่งงาน โดยลักษณะของเค้กจะสูงเสียดฟ้า หรือบางครั้งอาจจะมาอยู่ในรูปทรงของเค้กที่สูงเพียงไม่กี่ชั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า layer cake นั้นมีขั้นตอน ความเป็นมาอย่างไรบ้าง

ความเป็นมาของ layer cake

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีตำนานเรื่องเล่าว่าหากคู่รักใดสามารถโอบอุ้มและส่งต่อความรักของตนนั้นให้ล่องลอยสู่สรวงสวรรค์ได้ ความรักของคู่รักนั้นก็จะมั่นคง ล่องลอย และเป็นนิรันดร์ ดังนั้นเมื่อชาวบ้านเกาะอังกฤษจะทำการแต่งงานก็จะนำขนมปังอบกรอบชิ้นเล็กๆ มาเรียงต่อกัน เพื่อให้ได้สูงที่สุด เพราะชาวบ้านนั้นเชื่อว่าการสร้างขนมปังกรอบให้สูงที่สุดเปรียบเสมือนการสร้างบันได ให้คู่บ่าวสาวนั้นเดินทางสู่สรวงสวรรค์นั่นเอง จนเมื่อ ค.ศ. 1660 มีพ่อครัวชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเดินทางมาถึงอังกฤษ ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแต่งงานของชาวอังกฤษ แต่กลับกลายเป็นว่าขนมปังที่ชาวบ้านนำมาต่อกันนั้นล้มพังครืนลงมาอย่างไม่เป็นท่า ดังนั้นพ่อครัวชาวฝรั่งเศสคนนี้จึงได้คิดค้น “layer cake” ทดแทนขนมปังกรอบที่เรียงต่อกัน เพื่อทำให้ขนมในวันแต่งงานนั้นดูมีค่า น่ารับประทานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

วัตถุดิบและขั้นตอนการทำ layer cake 

เนื้อเค้กของ layer cake นั้นจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนนั่นคือ Butter cake และ sponge cake แต่วันนี้เราจะมาทำ layer cake โดยใช้เนื้อเค้กแบบ Butter cake ซึ่งมีส่วนผสมดังนี้

ใน 1 ชั้นเค้กของ layer cake จะประกอบไปด้วย

1.แป้งเค้ก 323 ถ้วยตวง

2.เกลือ 1 ช้อนชา

3.ผงฟู 1 ช้อนชา 

4.น้ำตาลทรายขาว 400 กรัม

5.กลิ่นวนิลา 1 ช้อนโต๊ะ

6.บัตเตอร์มิลล์ 360 มิลลิลิตร

7.ไข่ 3 ฟอง และไข่ขาว 2 ฟอง

8. baking soda ¾ ช้อนชา

ส่วนประกอบ butter cream ของเนื้อเค้ก

1.นมข้นหวาน 250 มิลิลลิตร

2.เนยเค็ม 500 กรัม

วิธีการทำ ตัวเค้ก layer cake

1.ร่อนแป้งเค้ก เกลือ เบคกิ้งโซดา และผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปพัก

2.นำไข่ไก่บัตเตอร์มิลล์ กลิ่วนิลา รวมทั้งแป้งที่ร่อนแล้ว ตีรวมกันด้วยความเร็วสูงสุดของเครื่องผสมโดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที

3.ทาเนยตรงแป้นพิมพ์เค้ก จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ทั้งหมดเทใส่แป้นพิมพ์ โดยในส่วนของ layer cake นี้จะต้องมีขนาดแป้นพิมพ์แตกต่างกันไป โดยเนื้อเค้กชั้นล่างสุดควรจะเป็นแป้นพิมพ์ที่มีฐานขนาดใหญ่สุด ส่วนชั้นต่อๆ มาก็จะมีขนาดลดหลั่นกันไป

4.นำส่วนผสมของเค้กทั้งหมดไปอบที่เตาอบ ณ อุณหภูมิ 180 องศา เป็นเวลา 30 นาที

5.นำเนื้อเค้กที่ผ่านการอบเรียบร้อยมาเรียงต่อกัน โดยทาบัตเตอร์ครีมแทรกในแต่ละชั้น

เพียงเท่านี้เราก็จะได้ layer cake ตามที่เราต้องการแล้ว ถ้าเพื่อนๆ ต้องการทำก็ลองได้เลยนะ ไม่ได้อยากอย่างที่คิดหรอก 555555

เครดิตภาพ : thelittleepicurean.com

#ร้านดังอร่อย #Layer cake #เค้กเจ้าสาว

อาหารไทยเป็นอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเป็นเอกลักษณะเฉพาะตัว และนอกจากจะเป็นอาหารที่ถูกปากคนไทยแล้วยังเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงและถูกปากชาวต่างชาติกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยหลายเมนูที่มีชื่อเสียงดังไปไกลยังต่างแดน และสำหรับใครที่ชื่นชอบในการชิมอาหารไทยวันนี้เรามีร้านอาหารไทยสูตรดั่งเดิมที่มีรสชาติเด็ดมาฝากกันค่ะ

ครัวสารสจัด 

แค่ฟังชื่อก็คงพอจะทราบกันแล้วนะคะว่าอาหารร้านนี้จะมีรสชาติจัดจ้านตามสูตรอาหารไทย และยังเป็นร้านที่เปิดมานานเกือบ 20 ปี กันอีกด้วย ภายในร้านตกแต่งโดยรอบด้วยวัตถุโบราณแบบไทยๆ สำหรับรายการอาหารที่เป็นเมนูเด็ดของที่นี่ก็อย่างเช่น ขนมจีนแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย, ยำถั่วพู, ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม, ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ สำหรับขนมหวานของที่นี่ก็มีรสชาติอร่อยไม่แพ้กันโดยเฉพาะ ลูกตาลลอยแก้ว ใครมาร้านนี้ต้องห้ามพลาดกันเลยนะคะ มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะทราบที่ตั้งกันแล้ว ร้านนี้ตั้งอยู่เลขที่ 112/1 ซอย 44 ถ.วิภาวดี-รังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ครัวกลางซอย 

เป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดบริการมากว่า 30 ปี ตั้งอยู่กลางซอยสุขุมวิท 49 สำหรับสูตรอาหารของที่นี่จะได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เพราะเป็นสูตรจากคุณยายที่ถ่ายทอดให้กับเจ้าของร้าน จึงจัดเป็นร้านอาหารไทยสูตรดั้งเดิมกันเลยทีเดียว ความอร่อยก็ไม่ต้องพูดถึงเพราะมีลูกค้าสัญจรไปมาตลอดเวลา สำหรับเมนูเด็ดของที่นี่ก็จะได้แก่ ต้มกะทิสายบัว, ปลาดุกกรอบผัดเผ็ด ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองได้เลยว่าถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน สำหรับเมนูของหวานก็ยังเป็นขนมแบบไทยๆ อย่างเช่น กระทงทอง และสละลอยแก้ว เป็นต้น 

ครัวชุมสาย ซอยราชครู

สำหรับร้านนี้จะเป็นร้านอาหารไทยที่เป็นสูตรต้นตำรับชาววัง ตั้งอยู่ในซอยอารีย์ เปิดบริการมามากกว่า 27 ปี ภายในร้านออกแบบตกแต่งให้มีบรรยากาศแบบไทยโบราณและบรรเลงเพลงไทยเดิมเบาๆ กันตลอดทั้งวัน จึงเข้ากันได้ดีกับเมนูอาหารไทย สำหรับเมนูเด็ดของร้านนี้ที่เราอยากจะแนะนำจะก็อย่างเช่น ซี่โครงหมูอ่อนผัดเผ็ด, แกงคั่วหอยขม และ ปลากะพงทอดน้ำปลา สำหรับเมนูของหวานที่อร่อยไม่แพ้อาหารจานหลักกันเลยก็อย่างเช่น บัวลอยสามสี และไอศกรีมน้อยหน่า เป็นต้น
ร้านอาหารไทยที่มีรสชาติอร่อยและเป็นสูตรดั่งเดิมในบ้านเรายังมีอีกหลายร้าน แต่ทั้งสามร้านที่นำมาแนะนำกันในวันนี้รับรองได้เลยว่าจะต้องถูกปากผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทยเป็นแน่ ใครชอบอาหารไทยต้องไม่พลาดไปชิมกันนะคะ แล้วคุณจะติดใจ และถ้าเพื่อนๆ อยากทราบว่ามีร้านอาหารไทยร้านไหนอร่อยอีกบ้าง

เครดิตภาพ : wongnai

#ร้านดังสั่งได้ #ร้านอาหารไทย #มุมอร่อย

Eater ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในกรมชลประทาน ร้านนี้ตั้งอยู่แถว ๆ แฟลตในกรมชลประทาน เป็นร้านเล็ก ๆ มีเคาน์เตอร์บาร์หน้าร้าน และยังมีห้องแอร์ไว้ให้เราสามารถนั่งทำงานได้ด้วย บรรยากาศภายในร้านตกแต่งสวยงาม ดูมินิมอล ชิค ๆ สบาย ๆ ดูเป็นคนละโลกกับข้างนอกเลย ที่นี่มีเมนูกาแฟให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย รวมทั้งเมล็ดกาแฟแบบต่าง ๆ ให้เลือกในราคาที่ไม่สูงมาก กาแฟมี 3 ตัวหลัก ๆ คือ original, signature และspecialty 

เมล็ดกาแฟก็ใช้ของเจ้าดัง ๆ เช่น bottomless  รสชาติของกาแฟและราคาไม่สวนทางกัน ถือว่าไปด้วยกันได้ดี นั่นก็คือกาแฟรสชาติดี ราคาสมเหตุสมผล ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป แอบได้ยินมาว่าครัวซองต์ของที่นี่ดีงามมาก ยังไงก็อยากให้ทุกคนลองไปกันดูนะคะ

Facebook : Eater ปากเกร็ด

พิกัด : กรมชลประทาน, ปากเกร็ด นนทบุรี

Tel :  081-4510100

เปิดให้บริการ : ทุกวัน 07.30 – 17.00 

Map :  https://goo.gl/maps/8JkVWjBNjCp5owGU6

ที่จอดรถ : บริเวณข้างถนนหน้าร้าน

เครดิตภาพ : img.wongnai.com , twitter.com

#คาเฟ่น่าลอง #ร้านดัง #รีวิวคาเฟ่

ในปัจจุบันมีคาเฟ่เกิดใหม่ขึ้นมามากมายตามจังหวัดต่าง ๆ จนเรียกได้ว่าทำมาเพื่อแข่งขันกันเองให้รายได้เข้ามาเป็นกอบเป็นกำแม้จะต้องลงทุนเยอะแค่ไหนก็ยอมจนผู้คนไม่สนใจร้านกาแฟโบราณหรือร้านกาแฟสดสไตล์เรียบ ๆ ทั่วไปเลย และอีกข้อเสียของการที่ผู้คนเอาแต่ยึดเป้าหมายแข่งขันก็เป็นสิ่งที่ผิดจากเป้าหมายการทำคาเฟ่ที่แท้จริง วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำการวางเป้าหมายที่เหมาะสมในการสร้างคาเฟ่ให้ทุกคนได้รู้เพื่อจะทำมันออกมาได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน เพราะเราเชื่อว่าหากคุณสร้างคาเฟ่ด้วยเพราะอยากแข่งขันกับความต้องการของผู้คนก็จะทำได้แค่เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง พอหมดความนิยมซึ่งคนเลิกสนใจ คุณก็จะมารู้สึกเบื่อหน่ายในภายหลัง ฉะนั้นสร้างเป้าหมายที่ใจของผู้คนเป็นเกณฑ์จะดีที่สุด 

เป้าหมายคาเฟ่ที่ของกินต้องอร่อย

คาเฟ่ที่คุณสร้างต้องมีเป้าหมายอยากให้ผู้คนได้รับประทานของกินดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่ที่มีความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการทำ การอบ การใส่แป้งด้วยสูตรที่ตัวเองมีหรือคิดค้นขึ้นมา และเครื่องดื่มที่ความหอมละมุนด้วยการผสมสัดส่วนที่เหมาะสม รวมถึงรสชาติอาหารที่ตอบโจทย์ความชอบของลูกค้าได้ทุกคน ไม่เข้มข้นมากและอ่อนจนเกินไป ทุกอย่างควรมาจากสูตรของคาเฟ่คุณที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ใช่ทำให้เหมือนคนอื่นเพียงเพราะคุณชอบรสชาติของเขาจึงพยายามทำให้เหมือน แม้แต่คุณภาพของวัตถุดิบที่ต้องเลิศเลอจนทำให้ราคาของกินในคาเฟ่ตัวเองแพง ยิ่งราคามากกว่า 45 บาทก็ยิ่งทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของที่ใช้ นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย เพราะเป้าหมายคาเฟ่เราคือความอยากให้ทุกคนได้ดื่มของอร่อยแบบรสาติคุณภาพผ่านสูตรเฉพาะและราคาเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้ นี่จึงจะเรียกว่าคาเฟ่แท้จริง

เป้าหมายคาเฟ่ที่ทำให้เกิดความอิ่มเอมใจ

การที่ผู้คนสมัยนี้นิยมเข้าคาเฟ่ก็เพราะอยากได้รับความอิ่มเอมใจ หลบหนีจากปัญหาหรือเรื่องทุกข์ใจมากมายสารพัดเพื่อมีความสุขสงบ ฉะนั้นคุณจึงไม่ควรเน้นสร้างสไตล์บรรยากาศคาเฟ่ที่เหมือนกับคาเฟ่อื่นที่ดัง ๆ เพื่อให้ได้ลูกค้าเยอะ เพราะแม้ว่าการที่ลูกค้าเยอะจะช่วยให้คุณมีกำไรมากขึ้น แต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นบรรยากาศสไตล์ที่คุณอยากทำจริง ๆ หรอก จงอย่าเอาสไตล์ค่านิยมมาแทนสไตล์เฉพาะของเรา คุณสามารถออกแบบคาเฟ่ดี ๆ ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงความนิยม ขอแค่ทำแล้วเป็นที่พักพิงใจให้ลูกค้าบางคนก็เพียงพอแล้ว นี่คือเป้าหมายแท้จริง

เป้าหมายคาเฟ่ที่ทำให้รู้สึกเป็นอิสระ

นอกจากความอิ่มเอมใจแล้ว ผู้คนที่มาคาเฟ่ยังต้องการความเป็นอิสระในการทำสิ่งต่าง ๆ และการได้ทำงานท่ามกลางความสงบใจตามสไตล์ที่ตัวเองชอบโดยไม่มีใครมาขัดขวาง เป้าหมายการทำคาเฟ่ของคุณจึงต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้ลูกค้าที่มาคนเดียวและแบบกลุ่มครบครันเท่าเทียมกัน เพราะหลายคนก็ต้องการดื่มด่ำของอร่อยและอยู่กับการใช้ความคิด หากทำได้ก็จะดีมาก

เครดิตภาพ : pixabay

#การทำร้านคาเฟ่ #เป้าหมาย #คาเฟ่

เค้กอร่อยรอคุณอยู่!

เมื่อได้มีโอกาสมาเที่ยวที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี หลายคนอาจจะนึกถึงเหมืองปิล็อก ,จุดชมวิวทะเลหมอกเนินช้างศึก ,เขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งสถานที่เหล่านี้มีแต่ความงดงามของขุนเขาที่สลับซับซ้อนงดงามและโรแมนติกมากหากมาเป็นคู่ แต่สำหรับอีกหลายคนนั้นกลับมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การมา “เหมืองสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น)” ซึ่งเป็นบ้านของหญิงชราชาวออสเตรเลียผู้รักในเหมืองนี้มากจนตัดสินใจปรับเปลี่ยนบ้านส่วนตัวให้กลายเป็นโฮมเสตย์และคาเฟ่ขนาดย่อม ๆ ซึ่งแม้ว่าการเดินทางจะเข้ามายากลำบากแต่ทุกคนก็ยอมดั้นด้นมาเพื่อที่จะได้ลิ้มลองเค้กสูตรอร่อยของ “ป้าเกล็น” และสัมผัสกับความล้ำค่าแห่งอดีตที่ราวกับหยุดเวลาไว้ ณ ตรงนั้น เหตุใดผู้คนจึงสนใจมาที่เหมือนสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น) และที่นี่มีตำนานโรแมนติกใดที่ตราตรึงใจซ่อนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของภูเขา คุณจะได้รู้เมื่ออ่านบทความนี้

ประวัติของ “เหมืองสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น)”

เมื่อหลายสิบปีก่อน “เกล็นนิส เจอร์เมน เสตะพันธุ” หรือ “ป้าเกล็น” หญิงชาวออสเตรเลียได้แต่งงานกับ “สมศักดิ์ เสตะพันธุ” เจ้าของเหมืองแร่สมศักดิ์ซึ่งในยุคนั้นความรักของทั้งคู่ได้กลายเป็นตำนานอันลือลั่นทั่วทั้งอำเภอทองผาภูมิไปจนถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรีด้วย เพราะการที่หญิงสาวชาวฝรั่งที่เติบโตมาในประเทศที่มีแต่ความเจริญและสุขสบายตัดสินใจมาครองคู่กับสามีในที่กันดารในป่าในเขาแบบนี้ย่อมเป็นไปได้ยาก แต่นั่นเป็นเพราะความรักที่เธอมีให้ต่อสามีและเหมืองสมศักดิ์ เมื่อเหมืองปิดตัวลง ป้าเกล็นจึงยังคงตั้งหลักปักฐานอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ๆ กับสามีเหมือนเดิมและได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นโฮมสเตย์บ้านเล็กในป่าใหญ่จนสามีเสียชีวิต เธอก็คอยต้อนรับลูกค้าและเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองตั้งแต่มาอยู่ที่ไทยจนรักกับคุณสมศักดิ์ ตอนนี้เธอก็ยังคงคิดถึงเขาเหมือนเดิม 

บรรยากาศของ “เหมืองสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น)”

“เหมืองสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น)” ตัวโฮมเสย์จะอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาที่ทางค่อนข้างชันทั้งขาขึ้นและขาลงที่มีหลุมบ่อกับลำธารค่อนข้างเยอะซึ่งต้องใช้รถรถโฟร์วิลเข้าไป มีบริการให้นักท่องเที่ยวครบ เมื่อคุณนั่งรถเข้าไปแล้วจะเห็นบ้านไม้สีน้ำตาลโบราณเก่า ๆ อันเงียบสงบที่มีการตกแต่งหน้าบ้านด้วยรูปถ่ายของผู้คนที่มาเยือนบ้านของป้าเกล็นหลังนี้ 

เมื่อเดินเข้าไปภายในตัวบ้านจะพบว่าบ้านมีความกว้างมากพอจะรับรองแขกได้จำนวนมาก มีการตกแต่งด้วยโต๊ะยาวกลางห้องสำหรับให้แขกและนักท่องเที่ยวมานั่งรับประทานอาหารรวมกัน มีการตกแต่งผนังด้วยโปสการ์ด รูปถ่ายมากมาย และยังมีกระดาษที่ตีพิมพ์เรื่องราวความรักของป้าเกล็นกับคุณสมศักดิ์ติดใส่กรอบให้คนได้มาอ่านด้วยความซาบซึ้งใจ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างจะมีความวินเทจตามการรักษานับตั้งแต่มีบ้านหลังนี้ซึ่งป้าเกล็นรักมันมาก

ส่วนด้านหลังที่เป็นห้องพักก็จะมีระเบียงชมวิวลำน้ำใสสะอาดท่ามกลางป่าไม้สีเขียว ทำเลที่ตั้งของบ้านป้าเกล็นจึงมีความอุดมสมบูรณ์ครบทุกมุมมองและเป็นที่พักรักษาสุขภาพกายและสุขภาพใจของทุกคนที่อยากหนีความวุ่นวายได้เป็นอย่างดีด้วย

เมนูอร่อยที่คุณต้องมาลองเมื่อถึง “เหมืองสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น)”

“เหมืองสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น)” มีทั้งอาหารอย่างง่าย ๆ และเค้กเบเกอรี่มากมายให้คุณได้มาลอง ซึ่งแต่ละวันป้าเกล็นอาจจะทำเพียงแค่ 1 เมนู แต่เค้กเมนูไหน ๆ ของท่านก็อร่อยหมด เป็นสูตรต้นตำรับจากออสเตรเลียเลย และบางเมนุเค้กท่านก็จะประยุกต์ให้เข้ากับวัตถุดิบง่าย ๆ ที่มีอยู่ในละแวกอำเภอทองผาภูมิหรือใกล้ ๆ บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเค้กกล้วยน้ำว้า ,เค้กแครอท ,เค้กช็อคโกแลต ,เค้กส้ม ,เค้กกาแฟ และเค้กทุเรียน บางครั้งก็จะมีพวกคุกกี้บัตเตอร์โฮมเมดด้วย

ส่วนพวกเครื่องดื่มก็จะเป็นโอวัลตินกับกาแฟที่ให้ลูกค้าบริการชงได้ด้วยตัวเองเพื่อดื่มคู่กับเค้กแสนอร่อยของป้าเกล็นเลย และสำหรับใครที่มาพักที่โฮมสเตย์กึ่งคาเฟ่นี้ก็จะมีอาหารเช้าสไตล์ชุดเบรกฟาสต์ยุโรปบริการให้ แต่เวลานี้ป้าเกล็นท่านอายุมากแล้วและป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์จึงมักจะพักผ่อนอยู่ในห้อง แต่ท่านก็กลับยังจำเรื่องราวทุกอย่างในเหมืองสมศักดิ์ได้ดีราวกับมันอยู่ในหัวใจของท่านตลอดเวลา แม้กระทั่งความรักที่มีต่อคุณสมศักดิ์ด้วย หากคุณจะมาที่นี่ก็พร้อมต้อนรับเสมอ เพราะท่านมีคนคอยดุแลแขกและทำอาหารกับเค้กสูตรตัวเองให้แทน รับรองว่ายังอร่อยเหมือนเดิม

เครดิตภาพ : tripgether.com/,bloggang.com

#รีวิวร้านดัง #ร้านเด็ดแนะนำ #ทองผาภูมิ

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในวังน้ำเขียว เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา ที่นักท่องเที่ยวต่างก็รู้จักกันอย่างดีนามของสถานที่ที่มีโอโซนติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก จนมีสมญานามว่า สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน แต่นอกจากธรรมชาติจะดีแล้ว คาเฟ่ที่นี่ก็ดีไม่แพ้กัน ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Sunset Lagoon

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือSunset Lagoon เป็นคาเฟ่วังน้ำเขียวริมทะเลสาบ ในบรรยากาศสวนสไตล์อังกฤษ โดยตัวร้านเป็นเรือนกระจกสีขาวท่ามกลางดอกไม้ เรียกได้ว่าหากใครที่เป็นสายถ่ายภาพที่นี่ก็ตอบโจทย์เลยค่ะ เราจะได้นั่งทานอาหารพร้อมชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลสาบ ในส่วนของเมนูก็มีทั้งของหวาน ขนมทานเล่น กาแฟสด และเบเกอรี่ วันหยุดหากยังไม่รู้จะไปไหน ลองแวะมาพักผ่อนที่นี่ดูนะคะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน 08.30 น. -18.00 น.

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา 

BLISS TIME CAFÉเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือBLISS TIME CAFÉ เป็นคาเฟ่เรือนกระจกสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ที่มีวิวภูเขาด้านหลังร้าน ส่วนภายในร้านทางร้านก็จะใช้เฟอร์นิเจอร์และของประดับสไตล์ลอฟท์และวินเทจให้ความเรียบหรู และด้วยความที่หลังร้านเป็นภูเขาเพราะฉะนั้นเราก็จะได้มาพักสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมทานอาหารและเครื่องดื่มของทานร้านไปในตัว ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.  – 19.00 น นะคะ

ร้านกาแฟ 22 องศา

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือร้านกาแฟ 22 องศา เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ติดกับรีสอร์ทเดิน ดิน ดูดาว โดยตัวร้านออกแบบตกแต่งในสไตล์ลอฟท์กึ่งการ์เด้น ที่มีการใช้ไม้ไผ่มาตกแต่งได้แบบสวยงามลงตัว ในส่วนของเมนูก็มีทั้งกาแฟ ของหวาน อาหารทานเล่นและอาหารจานเดียว นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆเยอะอีกด้วย ใครอยากได้รูปอัพโซเชียลก็ไม่ผิดหวังค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00  น. และหยุดทุกวันพุธนะคะ 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในวังน้ำเขียว ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนวังน้ำเขียว คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : twitter.com/a_4_d,

#ร้านดัง #ค่าเฟ่วังน้ำเขียว #รีวิวคาเฟ่

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในระนอง ซึ่งเป็นจังหวัดทางภาคใต้ตอนบน ที่ทิศตะวันตกติดกับทะเลอันดามัน ทำให้ในหลายๆพื้นที่ของระนองติดกับทะเล นักท่องเที่ยวจึงมักจะไปพักผ่อนกันในวันหยุดตามสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงคาเฟ่ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

มาตะคาเฟ่

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือมาตะคาเฟ่ เป็นคาเฟ่ที่มีการผสมผสานระหว่างสถานที่พักผ่อนนั่งชิล และสถานที่ชมงานศิลปะ เพราะนอกจากร้านจะมีการตกแต่งสไตล์มินิมอลแล้ว ภายในร้านก็ยังมีงานอาร์ต และงานศิลปะต่างๆให้เราได้ชมกันอีกด้วย ร้านเน้นโทนสีขาวเป็นบ้านไม้กึ่งปูนที่ทันสมัย และมีโซนกระจกรับแสงธรรมชาติ ทำให้รู้สึกโล่งและปลอดโปร่ง เมนูแนะนำของที่นี่คือ Coconut Flower Coffee หรือกาแฟดำเข้มผสมกับช่อดอกมะพร้าวนั้นเองค่ะ

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า พังงา 

168 คาเฟ่ 

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือ168 คาเฟ่ เป็นคาเฟ่ที่นอกจากจะให้ผู้คนได้เข้ามาดื่มกาแฟปกติแล้ว ทางร้านยังมีบริการรองรับการจัดงานประชุมหรืองานสัมมนา โดยทางร้านมีบริการอุปกรณ์และโปรเจ็คเตอร์ให้พร้อม ไม่ว่าเราจะมาคนเดียวหรือมาเป็นหมู่คณะเราก็จะได้มานั่งทานอาหารและจิบเครื่องดื่มอร่อยๆของทางร้านได้ แนะนำใครอยากจัดประชุม คุยงาน ก็ลองติดต่อทางร้านไปดูนะคะ

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง ระนอง 

วัชรี coffee garden

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือวัชรี coffee garden เป็นคาเฟ่ที่หากมาเที่ยววัดหงาวหรือมาซื้อของฝากประจำจังหวัดระนอง ก็ต้องอย่าลืมแวะมานั่งชิลที่ร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้ โดยทางร้านจะแบ่งออกสองโซนหลักคือโซนในห้องแอร์ๆ และโซนนั่งเล่นด้านนอกที่เราจะสามารถชมบรรยากาศธรรมชาติที่ร่มรื่นได้ ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มก็มีหลากหลายทั้งกาแฟ ลาเต้อาร์ต ชาเขียว และน้ำปั่นต่าง ๆ 
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง ระนอง

เครดิตภาพ : nakhonsidee.com

#ร้านเด็ดร้านดัง #คาเฟ่ระนอง #แนะนำคาเฟ่ขึ้นชื่อ

เมื่อกล่าวถึงนิยามของจังหวัดชัยนาทสำหรับนักเดินทางแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องคิดถึงฉายาของเมืองที่เต็มไปด้วยนกนานาพันธุ์ทั้งนกทั่วไปและนกที่พบได้ยากแล้วในสมัยนี้ก็ยังมีอยู่เต็มจังหวัดชัยนาทให้เราได้เห็นจนกลายเป็นภาพลักษณ์สมชื่อ “เมืองแห่งนกของประเทศไทย”นับตั้งแต่อดีต ยิ่งชัยนาทมีแหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่ออย่างสวนนกชัยนาทที่เป็นสวนสัตว์ที่รวบรวมนกมากมายในบริเวณภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียก็ยิ่งทำให้จังหวัดอันเงียบสงบเหล่านี้เป็นที่รู้จักของเหล่านักเดินทางที่ชอบอยู่กับนกและธรรมชาติทุ่งนากับภูเขามาก 

แต่ในเวลานี้นอกจากเมืองแห่งนกอย่างจังหวัดชัยนาทจะมีสวนนกเป็นแลนด์มาร์กสำคัญแล้ว คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าชัยนาทได้มีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการแก่นักเดินทางท่องเที่ยวได้ไม่นาน แต่เพียงชั่วข้ามคืนก็กลายเป็นที่รู้จักจนไม่ว่าใครที่ผ่านจังหวัดชัยนาทก็แทบจะได้ยินเขาแนะนำกันปากต่อปากว่า “นี่คือแลนด์มาร์กใหม่ของชัยนาทที่ไม่ควรพลาด”ทั้งนั้น สถานที่ที่เราจะมาแนะนำคุณวันนี้ก็คือ “เนรมิตคาเฟ่”นั่นเอง บอกเลยว่างานนี้สายเที่ยว สายเช็กอินสถาปัตยกรรมสุดเดิร์น และสายคาเฟ่รุ่นใหม่ย่อมต้องมากันสักครั้ง

ทำความรู้จักกับ “เนรมิตคาเฟ่” @ชัยนาท

“เนรมิตคาเฟ่” เป็นคาเฟ่เด็ดท่ามกลางทุ่งนายุคใหม่อยู่บริเวณตำบลอู่ตะเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาทที่ได้มีการเนรมิตความคลาสสิกของบ้านยุโรปสไตล์หมู่บ้านเมืองท่าของอังกฤษ อารมณ์แบบเมดิเตอร์เรเนียน และมีกรงนกขนาดยักษ์อันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่บอกเล่าถึงเรื่องราวความเป็นเมืองแห่งนกของจังหวัดชัยนาทให้ผู้ที่มาเยือนได้มาสัมผัสมันผ่านความโดดเด่นในสถาปัตยกรรมศิลปะโมเดิร์นที่พวกคุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นนกที่กำลังบินเข้ามาสู่สภาพแวดล้อมธรรมชาติในสวนจำลองแบบกรีนไลฟ์อันงดงามภายในกรงใหญ่ที่มีความโอโซนบริสุทธิ์เหมาะแก่ผู้ที่อยากมาพักผ่อนมาก

บรรยากาศของ “เนรมิตคาเฟ่” @ชัยนาท

“เนรมิตคาเฟ่” จะแบ่งโซนใหญ่ ๆ ออกเป็น 2 โซนด้วยกันเมื่อเราเข้าไป โดยจะมีโซนเนินด้านบนแยกย่อยเป็นบ้านหอคอยเมืองท่าอังกฤษสีขาวคลาสสิกที่ตั้งตระหง่านบนเนินเล็ก ๆ ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวสวยงามที่จะเห็นเด่นทันทีเป็นจุดแรกและใกล้เคียงกันจะมีสะพานข้ามสระมรกตที่จำลองเป็นรูปแบบอุโมงค์กรงนกโค้งเป็นเอกลักษณ์งดงามนำไปสู่ร้านกระจกโมเดิร์นขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในกรงนกยักษ์สีดำซึ่งจะมี 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นร้านอาหารปรับอากาศนั่งรับประทานอาหารที่มีระเบียงเชื่อมกับสะพานแขวนยาวสำหรับคนที่อยากไปถ่ายรูปคู่กับชื่อตัวอักษรร้านริมนาแบบคันทรี่ สามารถมองเห็นเขาแหลม อำเภอมโนรมย์ ชัยนาทเป็นฉากหลังที่มุมมองคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย และชั้นบนจะเป็นอุโมงค์กรงนกขนาดใหญ่ที่คุณจะได้อารมณ์เหมือนตัวเองกำลังอยู่บนสกายวอล์คภายในอุโมงค์กรงสุดอาร์ตมากเลย

ส่วนอีกโซนหนึ่งของ “เนรมิตคาเฟ่” ชัยนาทจะเป็นซุ้มให้นั่งห้อยขาริมสระมรกตที่คุณสามารถชมสถาปัตยกรรมคลาสสิกและสถาปัตยกรรมยุโรปของร้านพร้อมแลนด์มาร์กเด่นบนเนินสูงได้ 360 องศาเลย เหมาะกับคนที่ชอบนั่งท่ามกลางความเงียบสงบ อยู่กับสายน้ำและทุ่งนา ถือว่าเป็นคาเฟ่ที่มีทุกอย่างลงตัวจนคนรุ่นใหม่ต้องมาเช็กอินกันให้ได้จริง ๆ

เมนูเด็ดของ “เนรมิตคาเฟ่” @ชัยนาท

“เนรมิตคาเฟ่” ชัยนาท มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มเด็ดมากมายที่คุณควรจะได้มาลอง ได้แก่ ข้าวผัดเนรมิต, ก๋วยเตี๋ยวเนรมิตต้มยำ, ยำเนรมิต (หมูย่าง+ส้มโอ), น้ำพริกเนรมิตกุ้ง, หมูย่างเนรมิต, เรนโบว์แรร์ชีส,  ฟัจจี้ช็อคเค้ก, อเมริกาโน่,  กาแฟเนรมิต (กาแฟ+ส้มโอ), ชาเขียวมัทฉะ และมัทฉะมิลค์ช็อคโกแลต ซึ่งราคาก็ค่อนข้างสูงใช้ได้ เครื่องดื่มราคาอยู่ที่ 78 – 128 บาท และอาหารจะราคาหลักร้อยทุกอย่าง รสชาติของหวานถือว่าโอเค แต่ค่อนข้างช้า และเราลองสั่งชาเขียวมัทฉะปั่นมาลอง รสชาติก็กลาง ๆ หอมกลิ่นมัทฉะพอดีอยู่

มาเนรมิตคาเฟ่ จังหวัดชัยนาทบรรยากาศดี เงียบสงบแน่นอน เพราะอยู่ริมทุ่งนานอกเมือง ทางเข้าจะเลี้ยวซ้ายเลียบมาตามคลองก่อนขึ้นสะพานที่ฝั่งตรงข้ามเป็นสไมล์บัฟฟาโล่รีสอร์ตริมถนนสายเอเชีย ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและต้นไม้ริมนาอาจดูเปลี่ยวหน่อย แต่ตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะเห็นเนรมิตคาเฟ่ ชัยนาทอยู่ริมถนนซ้ายมือเอง แลนด์มาร์กเขาเด่น เห็นง่ายแน่นอน ไม่ต้องกลัวว่าจะหลง ตาม GPS มาก็จะสะดวกมากขึ้น

เนรมิตคาเฟ่ที่ตั้ง : ชน.2007 ตำบลอู่ตะเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท 1717

เครดิตภาพ : ไปรยา สงภักดี

#ร้านอร่อยจังหวัดชัยนาท #ยลกรงนก #ร้านเด็ด