Categories
เดลิเวอรี่

ร้านอาหาร ย่านห้วยขวางยามค่ำคืน  ต้อง เจ๊ติ๋มซีฟู้ด

ที่เยาวราช ก็จะมีร้านซีฟู้ดริมทาง นั่งแซ่บ สไตล์สตรีทฟู้ดอยู่มากมาย ซึ่งห้วยขวางก็มีเช่นกัน ฉันเดินไปกับแก๊งเพื่อน ๆ แล้วร้านเยอะมากเลือกไม่ถูก แต่ชื่อเสียงเรียงนามว่ามีอยู่ร้านหนึ่งที่โด่งดัง นั่นก็คือร้าน เจ๊ติ๋มซีฟู้ด ลงสถานีห้วยขวาง ทางออกเดียวกันกับศาลพระพิฆเนศ จากนั้นข้ามถนนไปฝั่งที่มี 7-Eleven เดินตรงไปประมาณ 300 เมตรก็เจอร้านแล้ว มีป้ายหน้าร้านเด่นชัด ถ้าหาไม่เจอแนะนำให้โทร. 08-6514-6183 นอกจากป้ายแล้วมีอาหารต่าง ๆ ในตู้กระจกหน้าร้านให้เห็นเด่นชัดอีกด้วย ขอแนะนำว่ามายิ่งดึกยิ่งดี เพราะร้านนี้เปิด 17.00-23.00 น. พวกเราไม่รอช้ารีบเข้าไปเลือกที่นั่งในร้านทันที มีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบห้องแอร์และนั่งบรรยากาศปกติด้านนอก ฉันและเพื่อนเลือกแบบบรรยากาศปกติด้านนอกสมกับเป็นร้านสตรีทฟู้ด

เมนูเด็ด ต้องลอง  เจ๊ติ๋มซีฟู้ด

ยำปูม้า เจ๊ติ๋มซีฟู้ด  แซ่บสะเด็ดที่สุดในย่านนี้ ปูดิบราดน้ำจิ้มแซ่บ ๆ กินไปแกะปูไป เปื้อนเต็มไม้เต็มมือ น้ำตาไหลด้วยความเผ็ด เอ้ย ความอร่อยต่างหาก ฮ่า ๆ ปูที่ใช้เป็นปูม้าตามในชื่อเมนูนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าเนื้ออร่อยอันดับต้น ๆ อยู่แล้ว ความสดของปูอยู่ในระดับที่รับได้ น้ำจิ้มอร่อยเผ็ดปานกลาง รสชาติดี ไม่เปรี้ยวเกินไป ประดับตกแต่งด้วยผักกะหล่ำปลี และสะระแหน่ดับคาวได้ดี อร่อยใช้ได้แถมราคาน่ารักน่าคบ ไม่กินไม่ได้แล้วเมนูนี้

ต้มซุปเปอร์ขาไก่หม้อไฟ เจ๊ติ๋มซีฟู้ด ชื่อเสียงดังกว่าซีฟู้ดในร้าน ก็เมนูต้มซุปเปอร์ตีนไก่นี่แหละค่ะ มีคนบอกว่าร้านเจ๊แกต้มทั้งคืนจนตีนไก่นุ่ม แหงล่ะสิ ก็ร้านเปิดกลางคืน จะต้มข้ามคืนยังไงก็ได้ ฮ่า ๆ ล้อเล่นนะ แค่จะบอกว่าต้มนานจนเปื่อยอร่อยมาก น้ำซุปเข้มข้น พริกลอยสะใจ ใส่ใบผักชีฝั่งแบบยาวมาก ชอบเพราะมันทำให้หอม ที่หั่น ๆ ก็มี ชอบกินมาก เป็นสมุนไพร ใครไม่ชอบตีนก็บอกพนักงานได้ว่าขอแบบผสมเนื้อไก่ได้ มีให้เลือกทั้งแบบใส่ถ้วยและหม้อไฟใหญ่จุดไฟร้อนเผ็ดแซ่บถึงทรวง เมนู Must have ของร้านจริง ๆ

การเดินทางไปร้าน เจ๊ติ๋มซีฟู้ด ก็ง่ายมาก ๆ เลย ถ้าเป็นคนห้วยขวางอยู่แล้วต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน แต่สำหรับสายกินแล้ว การเดินทางจะไกลแค่ไหนก็ไม่ทำให้ความพยายามน้อยลงไปเลย นักกินทั้งหลาย สามารถเดินทางไปตามโลเคชั่นนี้ได้เลย

เครดิตภาพ : wongnai

#เจ๊ติ๋มซีฟู้ด #ร้านเด็ด #ร้านอร่อย

Categories
เดลิเวอรี่

แนะนำคาเฟ่ขึ้นชื่อ อุตรดิตถ์

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในอุตรดิตถ์ จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของประวัติศาสตร์ยาวนาน นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเชิงธรรมชาติ ร้านอาหาร และคาเฟ่ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

AUF Espresso bar

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือAUF Espresso bar เป็นร้านกาแฟที่ออกแบบตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ภายในทาสีขาวตัดด้วยโต๊ะไม้สีน้ำตาล และมีเคาน์เตอร์บาร์ชงกาแฟขนาดใหญ่ให้เราได้มานั่งจิบกาแฟหรือจะถ่ายรูปก็ได้ ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มก็มีทั้งแบบร้อนและเย็น นอกจากนี้ยังมีเมนูเบเกอรี่ แนะนำเช่น ชีสเค้กเบอร์รี บานอฟฟี่พาย นิวยอร์กชีสเค้ก สตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก และเค้กมะพร้าว โดยร้านเปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลท่าเสา ซอยเจษฎาบดินทร์ 14 อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

The Forest สวนป่าคาเฟ่

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือ The Forest สวนป่าคาเฟ่ เป็นร้านกาแฟสไตล์สวนป่า ที่มี น้ำตก ทางเดินหิน และบ่อปลาคาร์พ ให้เราได้มาพักผ่อนนั่งชิล หรือถ่ายรูปกัน ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มยกให้เมนูกาแฟเลยเพราะทางร้านใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพ แต่หากใครไม่ดื่มกาแฟก็แนะนำเป็น มะนาวน้ำผึ้งโซดา ชาไทย ชามะนาว ช็อกโกแลต และชาเขียวมะลิ ทานคู่กับชีสเค้กมันม่วงญี่ปุ่นฝอยทอง หรือฮันนี่โทสต์ ของทางร้านก็เข้ากันสุดๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารคาว ทั้ง ข้าวพันผัก ส้มตำ ยำทูน่า ยำไข่เค็ม สลัดกุ้งกรอบ และสปาเกตตีขี้เมาทะเล ให้เราได้เลือกทานกันอีกด้วยนะ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

แวะพัก Coffee

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือแวะพัก Coffee เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีเมนูแนะนำคือ อเมริกาโน่น้ำผึ้งมะนาวโซดา ซึ่งเป็นการผสมกันระหว่างความหวานจากน้ำผึ้งและความสดชื่นจากมะนาว พร้อมด้วยกลิ่นกาแฟ ทานคู่กับเบอเกอรี่หอมหวาน เข้ากันสุดๆไปเลย ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในอุตรดิตถ์ ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนอุตรดิตถ์ คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : .paikondieow.com

#รีวิวคาเฟ่ #ร้านกาแฟ #ร้านอร่อย

Categories
เดลิเวอรี่

แนะนำคาเฟ่ขึ้นชื่อ วังน้ำเขียว

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในวังน้ำเขียว เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา ที่นักท่องเที่ยวต่างก็รู้จักกันอย่างดีนามของสถานที่ที่มีโอโซนติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก จนมีสมญานามว่า สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน แต่นอกจากธรรมชาติจะดีแล้ว คาเฟ่ที่นี่ก็ดีไม่แพ้กัน ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Sunset Lagoon

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือSunset Lagoon เป็นคาเฟ่วังน้ำเขียวริมทะเลสาบ ในบรรยากาศสวนสไตล์อังกฤษ โดยตัวร้านเป็นเรือนกระจกสีขาวท่ามกลางดอกไม้ เรียกได้ว่าหากใครที่เป็นสายถ่ายภาพที่นี่ก็ตอบโจทย์เลยค่ะ เราจะได้นั่งทานอาหารพร้อมชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลสาบ ในส่วนของเมนูก็มีทั้งของหวาน ขนมทานเล่น กาแฟสด และเบเกอรี่ วันหยุดหากยังไม่รู้จะไปไหน ลองแวะมาพักผ่อนที่นี่ดูนะคะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน 08.30 น. -18.00 น.

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา 

BLISS TIME CAFÉ

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือBLISS TIME CAFÉ เป็นคาเฟ่เรือนกระจกสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ที่มีวิวภูเขาด้านหลังร้าน ส่วนภายในร้านทางร้านก็จะใช้เฟอร์นิเจอร์และของประดับสไตล์ลอฟท์และวินเทจให้ความเรียบหรู และด้วยความที่หลังร้านเป็นภูเขาเพราะฉะนั้นเราก็จะได้มาพักสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมทานอาหารและเครื่องดื่มของทานร้านไปในตัว ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.  – 19.00 น นะคะ

ร้านกาแฟ 22 องศา

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือร้านกาแฟ 22 องศา เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ติดกับรีสอร์ทเดิน ดิน ดูดาว โดยตัวร้านออกแบบตกแต่งในสไตล์ลอฟท์กึ่งการ์เด้น ที่มีการใช้ไม้ไผ่มาตกแต่งได้แบบสวยงามลงตัว ในส่วนของเมนูก็มีทั้งกาแฟ ของหวาน อาหารทานเล่นและอาหารจานเดียว นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆเยอะอีกด้วย ใครอยากได้รูปอัพโซเชียลก็ไม่ผิดหวังค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00  น. และหยุดทุกวันพุธนะคะ 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในวังน้ำเขียว ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนวังน้ำเขียว คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : twitter.com

#สถานที่ท่องเที่ยว #คาเฟ่วังน้ำเขียว #รีวิวของกิน

Categories
เดลิเวอรี่

แนะนำคาเฟ่ขึ้นชื่อ เลย

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในเลย ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ที่มีเสน่ห์ไปด้วยความธรรมชาติ และบรรยากาศดีที่หาไม่ได้จากเมืองกรุง เพราะฉะนั้นคาเฟ่ของที่นี่ก็จะเน้นให้บรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริงๆ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

ร้านกาแฟนัว Nua Coffee Loei

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือร้านกาแฟนัว เป็นคาเฟ่กึ่งร้านกาแฟที่มาในสไตล์ลอฟท์แบบ Home Cafe ตั้งอยู่ติดริมน้ำฝายชลประทานจังหวัดเลย ในส่วนของเมนูอาหาร เครื่องดื่ม ก็หลากหลาย แนะนำเป็นกาแฟซ่าส์ และชานัว เบเกอรี่ก็เป็นโฮมเมดแนะนำคือ เครปเค้กนมสด และคาราเมลโทสต์ นอกจากนี้นี้ยังมีเมนูสลัดเพื่อสุขภาพและอาหารจาน เหมาะมากที่จะมาพักผ่อนชมบรรยากาศติดริมน้ำพร้อมทานอาหารแสนอร่อย ร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา เวลา 07.30-18.00 น. นะคะ

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย เลย 

คาเฟ่ ดี มีนา Cafe DE MENA

ไม่รอช้าเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือคาเฟ่ ดี มีนา เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ข้างทุ่งนาภายในภูเรือเรือนไม้รีสอร์ท โดยตัวร้านออกแบบเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้สำหรับสั่งเครื่องดื่มและขนมหวาน จุดเด่นอขงที่นี่ก็คือตัวสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปกลางทุ่งนา เหมาะแก่การมานั่งชิลๆพร้อมกับถ่ายรูปมากๆ และนอกจากที่ร้านจะมีกาแฟขายแล้ว ที่นี่ยังมีรีสอร์ทที่พักและแหล่งเรียนรู้การเกษตรพอเพียงตามรอยในหลวง ให้เราสามารถเข้าไปศึกษาการทำนาข้าวเกษตรอินทรีย์อีกด้วยนะคะ

ตั้งอยู่ที่ : บ้านภูเรือ ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย

ครามคีรีคาเฟ่เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือครามคีรีคาเฟ่ เป็นคาเฟ่ที่มาในโทนสีครามสลับสีขาว ตกแต่งผนังร้านและผ้าย้อมคราม โดยโซนภายในร้านหรือริมระเบียงเราสามารถมองเห็นธรรมชาติอย่างทุ่งดาวเรือง และภูเรือ ได้แบบชัดเจน ในส่วนของเมนูกาแฟแนะนำเป็น กาแฟกลิ่นวนิลาเพิ่มไซรัป, ชาเขียวนมสด, โกโก้ชาเขียวนมสด, กรีนทีคอฟฟี่ลาเต้, และอัญชันน้ำผึ้งมะนาว, ทานคู่กับเมนูขนมหวานแนะนำอย่าง บานอฟฟี่ไอศกรีม, ช็อกโกแล็ตโทสต์ และมาร์ชเมลโล่โทสต์ ร้านเปิด 08.30-18.00 น.

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในเลย ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนเลย คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : pateawthai.com

#เที่ยวเลย #ร้านดัง #รีวิวคาเฟ่

Categories
เดลิเวอรี่

แนะนำคาเฟ่ขึ้นชื่อ สวนผึ้ง

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในสวนผึ้ง อำเภอหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก บรรยากาศดี เพราะตัวเมืองจะถูกโอบล้อมไปด้วยหุบเขาและธะรมชาติ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมากมาย นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อมากๆ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

ธรรมชาติ คาเฟ่ Tham•ma•chart Café

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือธรรมชาติ คาเฟ่ เป็นคาเฟ่ในตัวบ้านสีขาว ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ซึ่งภายในร้านก็มีโซนที่นั่งหลากหลายโซน ทั้งในห้องแอร์ เก้าอี้ริมน้ำ เปล หรือจะเป็นพื้นที่ลานกว้างสีเขียวหน้าร้าน ในส่วนของเมนูอาหารก็มีให้เลือกมากมายทั้งเครื่องดื่มและขนมหวาน แนะนำหากมาช่วงเย็นจะดีสุดเพราะอากาศไม่ร้อน ได้รับไอเย็นจากลำธาร แถมยังมีแสงเหมาะแก่การถ่ายรูป ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.

ตั้งอยู่ที่ : หมู่บ้านวังจระเข้ ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี


The Camping Field Cafe

ไม่รอช้าเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือThe Camping Field Cafe เป็นคาเฟ่แคมปิ้งท่ามกลางภูเขาและทุ่งหญ้า ที่สามารถมองเห็นวิวเทือกเขาตะนาวศรีได้อย่างชัดเจน จนกลายมาเป็นจุดไฮไลต์ถ่ายรูปประจำร้าน เมนูอาหารก็มีทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวาน อาหารตามสั่ง แนะนำหากวันหยุดนี้ยังไม่มีแพรนจะไปไหนลองชวนครอบครัวมาทานอาหารพักผ่อนกันที่นี่ดูนะคะ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ค่ะ

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

ยีราฟคาเฟ่ Giraffe Cafe’

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือยีราฟคาเฟ่ เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งในธีมยีราฟ ตั้งอยู่ในสวนผึ้งไฮแลนด์ เมื่อเรามาเยือนที่นี่เราจะได้ดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มท่ามกลางสวนธรรมชาติ ที่มีการท่องเที่ยวเชิงสวนสัตว์ให้เราทำกิจกรรมร่วมกับสัตว์อีกด้วย ร้านเปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. นะคะ 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในสวนผึ้ง ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนสวนผึ้ง คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : lapakteaw.com

#สวนผึ้ง #ร้านเด็ด #คาเฟ่

Categories
เดลิเวอรี่

แนะนำคาเฟ่ขึ้นชื่อ แม่ฮ่องสอน

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย ที่ขึ้นชื่อและมีความโดดเด่นหลายด้าน โดยเฉพาะสภาพภูมิประเทศ และความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรม มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและคาเฟ่มากมาย ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

ลีไวน์ คอฟฟี่ Leewine Coffee

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือลีไวน์ คอฟฟี่ เป็นคาเฟ่ชื่อดังในบ้านรักไทย ทางร้านออกแบบตกแต่งในสไตล์จีนยูนนานด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งหมด ด้วยการตกแต่งแบบเรียบง่ายนี่เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนอย่างเราๆจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่น สบายตา ไฮไลท์ของร้านก็คือมุมบาร์ริมน้ำที่เราจะสามารถมองเห็นวิวหมอกกับแอ่งน้ำขนาดใหญ่แบบ 360 องศากันเลย เมนูขึ้นชื่อของที่ร้านก็จะเป็นพวก ชา กาแฟ และเมนูผลไม้ แนะนำว่าใครอยากมานั่งจิบชาท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาและสายหมอกก็ต้องมาเยือนที่นี่เลยค่ะ รับรองชิลไม่ผิดหวัง

Dekdoi coffee at jabo

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือDekdoi coffee at jabo เป็นคาเฟ่ท่ามกลางขุนเขาในบ้านจ่าโบ่ โดยตัวร้านจะออกแบบตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโซนที่นั่งทั้งแบบนั่งโต๊ะและนั่งพื้น ให้เราได้นั่งหย่อนขาพร้อมชมวิวหมอกแบบ 360 องศา ซึ่งเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือกาแฟสูตรพิเศษของบาริสต้าเจ้าของร้าน รวมไปถึงเมนูอื่นๆเช่น มอคค่า ชาไทย อิตาเลี่ยนโซดา และกาแฟแบบดริป

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน 

Sailor Oia Cafe

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือSailor Oia Cafe เป็นคาเฟ่ที่จำลองบรรยากาศของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเอาไว้ด้วยสระว่ายน้ำสีน้ำเงิน โดยโซนที่นั่งของร้านก็มีทั้งโซนบาร์ที่นั่งหันหน้าชมวิวที่พัก และวิวสระว่ายได้ และโซนชมวิวทิวเขา ตัวร้านออกแบบตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมไทยโมเดิร์น ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่อบอุ่น ใครอยากหลีกหนีความวุ่นวาย แนะนำไปนั่งพักผ่อนจิบชาที่ Sailor Oia Cafe เลยค่ะ
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน


เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในแม่ฮ่องสอน ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนแม่ฮ่องสอน คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ :blog.bangkokair.com, Facebook.com

#ร้านอร่อย #ต้องลอง #คาเฟ่ดัง

Categories
เดลิเวอรี่

มาตากอากาศชานกรุงฟังเพลงชิลล์ ณ Chale’t Café 

ใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว! พวกคุณมีแพลนไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างหรือยังคะ ถ้ายังไม่มีเราอยากจะมาแนะนำคาเฟ่ร้านอาหารสุดสุนทรีย์ที่อยู่ย่านชานเมืองกรุงเทพมหานครอย่าง “Chale’t Café” คาเฟ่นี้เหมาะกับการมาเยือนในฤดูหนาวมาก เพราะมีลักษณะเป็นบ้านพักตากอากาศที่จะให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังนั่งฟังดนตรีและรับประทานอาหารกันเป็นครอบครัวอยู่ตามรีสอร์ตแถวแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่และบริเวณเขาใหญ่ด้วยโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาไปฉลองไกล แถมยังต้องหาที่พักจองข้ามเดือนกันด้วย เพราะช่วงฤดูหนาวหากไม่เตรียมเต็นท์ไปกางเองแล้วล่ะก็บอกเลยว่าหากที่พักยากมาก สู้มาเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสหรือส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันที่ “Chale’t Café”กับเราที่เรารักในกรุงเทพมหานครกันดีกว่า เห็นคนดูเยอะแบบนี้ แต่เชื่อเถอะว่าช่วงปีใหม่ที่มีแต่คนสนใจจะเดินทางไกลไปเที่ยวที่อื่นกัน คาเฟ่นี้จะกลายเป็นสถานที่เฉลิมฉลองสุดประทับใจที่มีความวุ่นวายน้อยที่สุดสำหรับคุณอย่างแน่นอน

ทำความรู้จักกับ Chale’t Café”

“Chale’t Café” เป็นคาเฟ่แนวบ้านพักตากอากาศยุโรปขนาดใหญ่บนพื้นที่สวนป่าที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงแบบซอฟต์ ๆ ตามเทศกาลสุดชิลล์ในสภาพอากาศที่บริสุทธิ์ราวกับได้มานั่งอยู่ร้านอาหารและรีสอร์ตสุดหรูหราในหุบเขาที่เย็นสบายจบแบบที่นี่ที่เดียวโดยไม่ต้องเดินทางไปพักผ่อนที่ไหนไกลเลย ยิ่งเป็นช่วงฤดูหนาวท้ายปี Chale’t Café จะสร้างความประทับใจให้การดินเนอร์ของคุณในวันที่แสนธรรมดากลายเป็นมื้อพิเศษที่คุณกับคนที่คุณรักจะได้มีความสุขผ่านเสียงดนตรีคลอไพเราะและลมเย็น ๆ ที่ทำให้ได้ยินเสียงความมีชีวิตของใบไม้ใบหญ้าแน่นอน รับประทานอาหารเสร็จก็สามารถเดินทางกลับบ้านในใจกลางกรุงโดยสวัสดิภาพได้อย่างสะดวกสบาย อยู่ติดริมถนนบรมราชชนนี ย่านพุทธมณฑลสาย 3 แค่นี้เอง รถไม่เยอะ ไม่ต้องกลัวมลพิษและไม่ต้องกลัวความวุ่นวายเลย

บรรยากาศของ “Chale’t Café”

“Chale’t Café” ตัวร้านถูกออกแบบมาให้เป็นบ้านแนวอิงลิชคันทรี่สไตล์บ้านพักตากอากาศที่ทำจากไม้ให้ความกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติของต้นไม้ใหญ่ใจกลางสวนของร้านที่เป็นแลนด์มาร์กเด่นประดับประดาด้วยไฟห้อยระย้าสีส้มยามเย็นตามกิ่งก้านที่แผ่สาขาแขนงออกกว้างจนปกคลุมทั่วทุกทิศของตัวร้านให้เหมือนอยู่ในสวนป่าขนาดย่อมเลย โดย Chale’t Café จะแบ่งออกด้วยกัน 2 โซน ได้แก่ โซนห้องปรับอากาศภายในและโซน Outdoor ที่มีบริการโต๊ะนั่งกระจายหลากหลายมุมรับลูกค้าได้จำนวนมากทั้งบนระเบียงบ้านและบริเวณสนามหญ้า ซึ่งมีเตาปิ้งย่างบาร์บีคิวให้ทำกิจกรรมตามความสะดวกและมีมุมถ่ายรูปแบบยุโรปคันทรี่ เช่น เตียงนอนบนกองฟาง มุมกีต้าร์ท่ามกลางดอกหญ้า เป็นต้น คุณจะได้รับประทานอาหารพร้อมกับฟังดนตรีตะวันตกที่จะทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่ในชนบทของยุโรปมากอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสย่านกรุงเทพมหานครมาก่อน

เมนูเด็ดของ Chale’t Café”

“Chale’t Café” จะเน้นเมนูอาหารไปทางอาหารยุโรปซึ่งมีของอร่อยมากมายไม่ว่าจะเป็น BBQ set, ซี่โครงหมูอบภูเขาไฟ, Fettuccine Creamy Pesto, Spaghetti Keemao Seafood, Fettuccine Carbonara Pancestta และเครื่องดื่มอเมริกาโน่หอม ๆ , ชาเขียวมัทฉะแท้ รวมถึง Strawberry Lychee Smoothies สุดสดชื่นรับลมหนาวได้ดี

Chale’t Café

ที่ตั้ง : 751 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170

เครดิตภาพ : chicmomandfabfamily.com/, ecommirst.com

#Chale’t Café #ร้านดังต้องลอง #คาเฟ่น่านั่ง

Categories
เดลิเวอรี่

Honmono SuShi Japanese Restaurant

ร้านนี้บอกเลยว่า สาวๆคนไหนที่ชอบทานซูชิต้องไปลองเลยค่า เพราะเนื้อปลาสดใหม่ทุกชิ้น ซูชิปั้นใหม่ทุกวัน แถมยังเป็นร้านของเชฟกระทะเหล็กที่ช่ำชองในการใช้มีดแล่เนื้อปลาได้อย่างสวยงาม นั่นก็คือ เชฟบุญธรรม ภาคโพธิ์ นั่นเอง โดยแต่ละเมนูเชฟได้คัดสรรค์วัตถุดิบเป็นอย่างดี ยังมีเมนูมากมายให้เลือก อีกทั้งยังสั่งไลน์แมนให้มาส่งได้อีก แถมมีหลายสาขาอีกด้วยนะ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาด Honmono SuShi ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่เปิดให้บริการอีกทั้งสร้างความประทับใจผ่านมื้ออาหารให้กับชาวกรุงฯมานานกว่า 8 ปี โดยมีหัวหอกสำคัญอย่างเชฟกระทะเหล็กบุญธรรมและเชฟบัณฑูรกูรูอาหารญี่ปุ่นที่มาคอยสร้างสรรค์เมนูรวมถึงควบคุมคุณภาพวัตถุดิบกันแบบจานต่อจาน

สถานที่ตั้งร้าน Honmono SuShi  เดินทางสะดวกซอยทองหล่อ 23 คือที่ตั้งของ Honmono SuShi สาขาแรก ก่อนจะขยับขยายกระจายความอร่อยในอีก 6 สาขาต่อมาเพื่อให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยกันตามสะดวกมากขึ้น อีกอย่างที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของอาหารญี่ปุ่นก็คือความสดใหม่ของวัตถุดิบ ซึ่งที่นี่นำเข้าปลาเองทั้งยังเป็นตัวกลางส่งให้เจ้าอื่นๆ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าทุกวัตถุดิบที่ถูกปรุงออกมาเป็นเมนูล้วนผ่านการคัดแล้วคัดอีกจนกว่าจะได้สิ่งที่ดีที่สุดมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าคนสำคัญท่าๆ ที่คิจิสำรวจรายการอาหารของที่ร้านพบว่านอกจากซูชิหน้าต่างๆ ที่เป็นตัวชูโรง เมนูอื่นๆ ของเขาก็น่าสนใจจนทำให้ใครหลายๆ คนอาจลังเลได้ในหลายๆ จังหวะ ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น คิจิเลยขออาสานำเสนอ 5 เมนูซิกเนเจอร์ของ Honmono SuShi ที่บนโต๊ะถ้าขาดจานใดจานหนึ่งไปก็เหมือนขาดเธอเหมือนขาดใจเลยล่ะ

เมนูห้ามพลาด ของร้าน Honmono SuShiเริ่มจานแรกของร้าน Honmono SuShi  ด้วย Matsu Sushi เซ็ตซาชิมิที่ยกขบวนกันมาแต่ของอร่อยไม่ว่าจะเป็นปลาเนื้อขาวและเนื้อแดง ไล่ไปตั้งแต่คัมปาจิ, ฮิราเมะ, ฮามาจิ, แซลมอน, โอโทโร่, ทูน่า, อมาอิบิ (กุ้งหวาน) และโฮตาเตะ ซึ่งไม่เพียงแต่จะสดถูกใจเชฟยังแล่มาชิ้นใหญ่ให้เราได้ฟินกันแบบเต็มๆ คำ ถัดมาที่อีกเมนูคือ Honmono Salad มิกซ์สลัดที่มีทั้งผักกาดแก้ว, เรดโอ๊ค, กรีนโอ๊ค, พริกหวาน ไปจนถึงมะเขือเทศ ไม่พอเพราะท็อปมาด้วยกุ้งต้ม, ปลาหมึกยักษ์, หอยปีกนก, แซลมอน, ทูน่า, ฮามาจิ และอิคุระ ก่อนจะราดเดรสซิ่งสูตรเฉพาะที่มอบรสสัมผัสสดชื่นๆ ยามรับประทาน

เครดิตภาพ : .nackna.com

#ร้านอร่อย #เชฟโชว์ของ #รีวิวของกิน

Categories
เดลิเวอรี่

แนะนำ แหล่งช้อป ชิม in เชียงใหม่

ไหนใครที่มีแพลนขึ้นเหนือไปรับลมหนาวที่เชียงใหม่บ้างงงงง ยกมือขึ้น เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่หลายๆคนคนอยากจะมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเหลือเกิน นอกจากแหล่งท่องเที่ยวแล้ว แหล่งช้อปปิ้งที่นี่ก็ไม่แพ้ที่ไหนๆแน่นอนค่ะ วันนี้เลยเราจะมาแนะนำ แหล่งรวมทั้งของกิน ของใช้ ไปจนถึง ของฝาก กับตลาดสุดฮิตของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวมาฝากกันค่ะ

1.ตลาดวโรรส (กาดหลวง)

ตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเชียงใหม่เลยค่ะ และเป็นตลาดเก่าแก่มานานกว่าร้อยปี ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ ก็จะต้องแวะมาซื้อของฝากกันที่นี่ ที่นี่มีสินค้าต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะของฝากที่เป็นอาหารพื้นเมือง อย่าง ไส้อั่ว แหนม น้ำพริกหนุ่ม รวมไปถึงผัก ผลไม้แปรรูปต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมอาหารพื้นเมืองราคาถูกอีกด้วยนะคะ

พิกัด : ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

2.One Nimman

เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะมีความโดดเด่นมากๆ ด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาร่วมสมัยที่ผสมผสานเข้ากันกับแนวตะวันตก ภายในก็จะรวบรวมร้านอาหาร พื้นที่แสดงศิลปะ คาเฟ่ ร้านนั่งชิล และร้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ไว้อย่างครบครัน ที่สำคัญมีมุมถ่ายรูปสวยๆเพียบ

พิกัด : ถนนนิมมานทร์เหมินทร์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้เข้าชม : 10.00-22.00 น.

3.ถนนคนเดินท่าแพ

เป็นถนนคนเดินยุคแรกๆ และยังเป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่อีกด้วยค่ะ ร้านค้าและสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายกันก็จะมีทั้งสินค้าพื้นเมือง เสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ รวมถึงมีโชว์ดนตรี การแสดงเล็กๆ ว่ากันว่าใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ และไม่ได้ไปเดินถนนคนเดินท่าแพ ก็ถือว่ามาไม่ถึงเชียงใหม่เลยนะคะ

พิกัด : ถนนราชดำเนิน ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้เข้าชม : 17.00-22.00 น. (ทุกวันอาทิตย์) 

4.บ้านข้างวัด

เป็นแหล่งช้อปปิ้งสไตล์พื้นเมือง ที่ตั้งอยู่ในซอยวัดอุโมงค์ เจ้าของที่นี่ต้องการ สร้างชุมชนให้มีวิถีชีวิตขึ้นมา เน้นการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันเหมือนกับผู้คนในสมัยก่อน ร้านค้าของที่นี่ส่วนใหญ่จะเน้นขายของแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้านต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม workshop สนุกๆ ในแต่ละเดือน ให้ได้ทำกันอีกด้วย

พิกัด : 191 ถนนบ้านร่ำเปิง ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

5.กาดหน้ามอ

เป็นแหล่งรวมสินค้าวัยรุ่นที่อยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีสินค้าขายทั้ง เสื้อผ้า กางเกง เครื่องประดับ แว่นตา นาฬิกา เครื่องสำอางค์ อุปกรณมือถือ กระเป๋า รองเท้า ซึ่งกาดแห่งนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่และกว้างมากค่ะ และแน่นอนว่าตั้งอยู่ใกล้มหาลัยแบบนี้ ก็เป็นที่นิยมของทั้งนักศึกษามช.และคนวัยทำงานในบริเวณนี้เลยค่ะ

พิกัด : ถนนห้วยแก้ว ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดให้เข้าชม : 16.00-23.00 น.

เครดิตภาพ : When OR Where

#อร่อยเด็ด #เชียงใหม่ #แหล่งช้อป

Categories
เดลิเวอรี่

แนะนำคาเฟ่ขึ้นชื่อ วังน้ำเขียว

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในวังน้ำเขียว เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา ที่นักท่องเที่ยวต่างก็รู้จักกันอย่างดีนามของสถานที่ที่มีโอโซนติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก จนมีสมญานามว่า สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน แต่นอกจากธรรมชาติจะดีแล้ว คาเฟ่ที่นี่ก็ดีไม่แพ้กัน ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Sunset Lagoon

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือSunset Lagoon เป็นคาเฟ่วังน้ำเขียวริมทะเลสาบ ในบรรยากาศสวนสไตล์อังกฤษ โดยตัวร้านเป็นเรือนกระจกสีขาวท่ามกลางดอกไม้ เรียกได้ว่าหากใครที่เป็นสายถ่ายภาพที่นี่ก็ตอบโจทย์เลยค่ะ เราจะได้นั่งทานอาหารพร้อมชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลสาบ ในส่วนของเมนูก็มีทั้งของหวาน ขนมทานเล่น กาแฟสด และเบเกอรี่ วันหยุดหากยังไม่รู้จะไปไหน ลองแวะมาพักผ่อนที่นี่ดูนะคะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน 08.30 น. -18.00 น.

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา 

BLISS TIME CAFÉเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือBLISS TIME CAFÉ เป็นคาเฟ่เรือนกระจกสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ที่มีวิวภูเขาด้านหลังร้าน ส่วนภายในร้านทางร้านก็จะใช้เฟอร์นิเจอร์และของประดับสไตล์ลอฟท์และวินเทจให้ความเรียบหรู และด้วยความที่หลังร้านเป็นภูเขาเพราะฉะนั้นเราก็จะได้มาพักสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมทานอาหารและเครื่องดื่มของทานร้านไปในตัว ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.  – 19.00 น นะคะ

ร้านกาแฟ 22 องศา

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือร้านกาแฟ 22 องศา เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ติดกับรีสอร์ทเดิน ดิน ดูดาว โดยตัวร้านออกแบบตกแต่งในสไตล์ลอฟท์กึ่งการ์เด้น ที่มีการใช้ไม้ไผ่มาตกแต่งได้แบบสวยงามลงตัว ในส่วนของเมนูก็มีทั้งกาแฟ ของหวาน อาหารทานเล่นและอาหารจานเดียว นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆเยอะอีกด้วย ใครอยากได้รูปอัพโซเชียลก็ไม่ผิดหวังค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 -17.00  น. และหยุดทุกวันพุธนะคะ 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในวังน้ำเขียว ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนวังน้ำเขียว คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : twitter.com/a_4_d,

#ร้านดัง #ค่าเฟ่วังน้ำเขียว #รีวิวคาเฟ่