Category: ส่งถึงบ้าน

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในหัวหิน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับใครหลายๆคน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยในหัวหินมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็ได้คาเฟ่ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Oasis x Seenspace

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือOasis x Seenspace เป็นคาเฟ่ริมทะเลหัวหิน โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ในโครงการ Seenspace HuaHin แนะนำว่าหากใครที่อยากมานั่งชิลริมทะเล ก็ต้องมาเยือนที่นี่เลย หากสาวๆคนไหนที่อยากมาถ่ายรูปแนะนำให้มารอบกลางวัน แต่ถ้าใครอยากมาพักผ่อนทานอาหารกับครอบครัวแนะนำมาช่วงเย็นถึงค่ำ เพราะช่วงนี้จะมีบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกดินสวยมากๆเลย ในส่วนของเมนูอาหารก็มีหลากหลายทั้งไทยและต่างประเทศ ในส่วนของเวลาเปิด-ปิด จันทร์-ศุกร์ 12:00 น. – 21:00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ 11:00 น.  – 22:00 น. 

ตั้งอยู่ที่ : อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 

Eureka Beach Cafe Hua Hin

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือEureka Beach Cafe Hua Hin เป็นคาเฟ่กลางสนามหญ้าสีเขียวริมชายหาด โดยทางร้านจะมีโซนที่นั่งให้เลือกทั้งแบบอินดอร์ และเอาท์ดอร์ แนะนำว่าหากมาในช่วงเย็นๆก็ต้องไปนั่งกลางสนามหญ้าเลยค่ะ เพราะอากาศดีได้ฟิลนั่งฟังเสียงคลื่นพร้อมจิบเครื่องดื่มและทานอาหารเมนูฟิวชั่น ในส่วนของเวลาเปิดปิด ร้านเปิดทุกวันนะคะ ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

ทรี เฮาส์ คาเฟ่ Tree House Cafe

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือทรี เฮาส์ คาเฟ่ เป็นคาเฟ่ในตัวบ้านที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้  ร้านออกแบบตกแต่งสไตล์ลอฟต์ ประดับด้วยของสะสมมากมาย ทั้ง จักรยาน ป้ายทะเบียนรถยนต์และกระถ่างต้นไม่น่ารักๆ มีโซนที่นั่งทั้งในตัวบ้าน และโซนม้าหินกลางสวน เมนูอาหารทางร้านจะเน้นเป็นอาหารจานเดียวแบบโฮมเมด ในส่วนของเวลาเปิดปิด 09:00 น. – 18:00 น. และจะหยุดทุกวันพุธ แนะนำว่าหากใครที่มีโอกาสได้มาเยือนหัวหิน ก็อย่าลืมแวะพักจิบกาแฟชิลๆที่คาเฟ่แห่งนี้กันนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในหัวหิน ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนหัวหิน คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : wongnai

#รวมคาเฟ่หัวหิน #ร้านเด็ดต้องลอง #คาเฟ่แนะนำ

สวัสดีค่ะ ไหนมีใครในที่นี้เป็นคนนครสวรรค์บ้างยกมือขึ้นให้ชื่นใจหน่อยเร็ว! โอ้ ยกกันเต็มเลย หากคุณเป็นคนนครสวรรค์เมืองปากน้ำโพแท้ ๆ ก็ต้องรู้จักเครปศรีไกรลาศซึ่งเปิดมาหลายสิบปีแน่นอนแม้แต่คุณพ่อคุณแม่คุณก็อาจจะเคยมาเดทกันในร้านเครปนี้ก็เป็นได้ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จักเครปศรีไกรลาศก็ไม่เป็นไร วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเดี๋ยวนี้ เดินตามเรามาที่ถนนโกสีห์กันเลย ของอร่อยรอคุณอยู่!

บรรยากาศร้านเครปศรีไกรลาศ 

ร้านเครปศรีไกรลาศ ตั้งอยู่พื้นที่ชั้นล่างภายในตัวตึกศรีไกรลาศ พลาซ่าซึ่งเคยเป็นห้างสรรพสินค้ายอดนิยมของวัยรุ่นนครสวรรค์ที่เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อนานมาแล้ว แม้ห้างสรรพสินค้าจะปิดตัวลง แต่ความอร่อยและชื่อเสียงในตำนานของเครปศรีไกรลาศก็ยังคงอยู่และมีคนมาซื้อเยอะเหมือนเดิมทุกวัน ท่ามกลางความวุ่นวายบนท้องถนนโกสีห์ เราก็ยังสัมผัสได้ถึงความสงบภายในร้านที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็ก ๆ ภายในร้านยังมีโต๊ะรับรองให้นั่งรับประทานรำลึกถึงอดีตวันวานด้วย แถมคุณป้าเจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี ตอนเราไปสั่งเครปยังชวนคุยและถามลูกค้าก่อนว่า “ป้าทำเครปแบบกรอบอย่างที่คนสมัยนี้ไม่เป็นหรอกนะลูก แต่ถ้าเครปนุ่มขอให้บอก อร่อยนะลองดู” ความใจดีของคุณป้าทำให้เราชักอยากที่จะมาร้านนี้บ่อย ๆ แล้วสิ เหมือนได้คุยกับญาติเลย ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น

ลักษณะและรสชาติของเครปศรีไกรลาศ

หากมาเครปศรีไกรลาศแนะนำให้สั่งเครปคัสตาร์ดไข่เลย ต้องบอกว่าอร่อยมากค่ะ ราคาก็ไม่แพงแค่ 10 บาทเองหากเป็นเมนูไส้ปกติพื้น ๆ แต่หากเป็นเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ ไส้กรอก หมูหยอง พวกนี้ก็จะเพิ่มมาอีก 5 บาท พวกเรามาถึงที่ก็สั่งเครปคัสตาร์ดไข่มา ใช้เวลาทำไม่กี่นาทีก็เสร็จ เครปนิ่มและรับประทานง่าย เสิร์ฟพร้อมควันร้อนหอมฉุย เมื่อกัดไปเต็ม ๆ คำไส้คัสตาร์ดสีเหลืองยั่ว ๆ ก็ทะลักออกมาให้ฟินราวกับขึ้นสวรรค์ มีความหวานของตัวครีมคัสตาร์ดที่รสชาติคล้ายบาวาเรียน แต่มีความหอมของกลิ่นไข่ เราแนะนำให้คุณค่อย ๆ รับประทานอย่างละเล็กละน้อยทีละคำไม่ต้องรีบเพื่อจะได้สัมผัสกับรสชาติของไส้เครปให้ยาวนานที่สุด อย่างที่บอกไปว่าร้านนี้เป็นเครปในตำนานแห่งนครสวรรค์และอร่อยที่สุดซึ่งเราก็ยืนยันอีกเสียงว่าจริงแท้แน่นอน หากคุณได้มานครสวรรค์แล้วล่ะก็…ห้ามพลาดที่จะแวะมาที่ร้านเครปศรีไกรลาศนะคะ ต้องบอกไว้ก่อนว่าร้านเครปศรีไกรลาศปัจจุบันมีหลายสาขามาก แต่ถ้าสาขาที่เป็นเจ้าเก่าเจ้าแก่คู่เมืองนครสวรรค์ก็ต้องสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าศรีไกรลาศ พลาซ่าล่ะค่ะ นี่ล่ะของจริง!

ร้านเครปศรีไกรลาศ 

ที่อยู่ : ห้างสรรพสินค้าศรีไกรลาศ พลาซ่าเก่า ถนนโกสีย์ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ 

เบอร์โทร. 089-754-6672

#ร้านเด็ดต้องลอง #เครปศรีไกรลาศ #ร้านเครป

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในย่านบางพลัด เป็นย่านที่สุดแสนจะเรียบง่ายของกรุงเทพมหานคร โดยย่านแห่งนี้ขึ้นชื่อจากวัดริมแม่น้ำอย่างวัดอาวุธวิกสิตารามซึ่งเป็นพระอารามหลวงอายุนับหลายศตวรรษ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องวัดแล้วคาเฟ่ก็ขึ้นชื่อไปแพ้กัน ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Unbidden cafe&things

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือUnbidden cafe&things เป็นคาเฟ่สไตล์มินิมอล ทำเอาใจสาวๆที่ชื่นชอบความเป็นเกาหลี โดยตัวร้านจะออกแบบตกแต่งแบบเน้นโทนสีขาว หน้าร้านมีกระจกใส ที่เราสามารถมองเห็นตัวร้านได้ แนะนำว่าหากสาวๆมาเยือนที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปคู่กับตัวร้านกันนะ นอกจากนี้ในส่วนของเมนูอาหารเครื่องดื่มทางร้านก็มีให้เลือกเพียบเลยค่ะ โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 18.00 น.

ตั้งอยู่ที่ : แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 

Americano_cafe

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือAmericano_cafe เป็นคาเฟ่สไตล์อเมริยุค 90 ที่มีการออกแบบตกแต่งโดดเด่นไม่ซ้ำใครเรียกได้ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็เท่ห์สุดๆไปเสียทุกมุม เพราะทางร้านตกแต่งด้วยโทนสีแดงผสมสีสันอื่นๆอีกหลากหลาย ในส่วนของเมนูแนะนำของที่ร้านก็คือ Milkshake นอกจากนี้ยังมีเมนูให้ได้เลือกอีกมากมาย เช่น สปาเกตตี เบอร์เกอ และอาหารจานเดียว ใครอยากนั่งทานอาหารอร่อยๆท่ามกลางบรรยากาศอเมริสไตล์ก็ต้องมาที่นี่เลยค่ะ โดยร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ เวลา 10:30 – 20:00 น. และจะปิดทุกวันจันทร์นะคะ

ตั้งอยู่ที่ : แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

Chisaya Patisserie

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือChisaya Patisserie เป็นคาเฟ่ที่ทำออกมาเอาใจสายเค้กโดยเฉพาะ เพราะทางร้านมีเมนูเค้กให้เลือกกันหลากหลายเมนู เช่น Friut cake และChisaya dome  แต่ที่อยากจะแนะนำมากก็คือเค้กช็อกโกแลตเนื่องจากที่ร้านใช้ช็อกโกแลตชั้นดีนั้นเอง และในส่วนของเครื่องดื่มก็หลากหลายเช่นกัน ทั้งสมูทตี้ กาแฟ และเมนูนม ร้านเปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. นะคะ
ตั้งอยู่ที่ : แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในย่านบางพลัด ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนย่านบางพลัด คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : bkkmenu.com , kinraideewa.com

#รีวิวคาเฟ่ #ร้านเด็ดต้องลอง #คาเฟ่ย่านบางพลัด

สำหรับร้านอาหารที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังและหลายๆคนก็รู้จักกันสำหรับคนที่อยู่ย่านทองหล่อถ้าไม่รู้จักร้านนี้ก็คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะว่าร้านนี้นั้นมีจุดเด่นต่างๆหลายอย่างที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรสชาติของอาหารที่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยและถูกปากถูกใจคนแถวๆนั้นเป็นอย่างมากรวมไปถึงราคาที่เป็นมิตรภาพกับผู้บริโภคและสามารถกินได้ในราคาถูกไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบไหนก็ตามของร้านเป็นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับความนิยมจากคนในย่านทองหล่อกันเป็นจำนวนมากและร้านที่เราพูดถึงกันอยู่นี้ก็คือร้านที่มีชื่อว่าร้านอาหาร ข้าวจ้าว เป็นร้านอาหารใต้และรวมไปถึงร้านอาหารอีสานรวมทุกรสชาติเอาไว้ในร้านเดียว 

ข้าวจ้าวร้านอาหารใต้และอีสาน 

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในย่านพระนคร ย่านที่ใครๆในเมืองกรุงน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่าของกรุงเทพมหานครที่คึกคัก เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และคาเฟ่ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

ฮาเตียน คาเฟ่ Ha Tien Cafe

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือฮาเตียน คาเฟ่ เป็นคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่เท่าไหร่ แต่กลับเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าแน่นตลอดเวลา โดยหลักๆที่ทำให้ร้านคึกคักก็เพราะด้วยตัวร้านมีการตกแต่งสไตล์วินเทจโบราณผสมกับลอฟต์ ทำให้เกิดเป็นมุมถ่ายรูปเท่ห์ๆมากมาย เรียกได้ว่าเดินไปมุมไหนของร้านก็สามารถถ่ายรูปได้ทุกมุม นอกจากนี้ทางร้านยังเมนูแนะนำคือเค้กมะตูม เค้กหวานหอมอร่อย ที่ทำสดใหม่ทุกวัน ทานคู่กับกาแฟสักแก้ว รับรองฟินค่ะ ในส่วนของเวลาเปิด-ปิด ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 08.00 – 20.00 น.

ขนมฉัน คาเฟ่ Kanom Chan Thai Desserts Rooftop Bar

ไม่รอช้าเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือขนมฉัน คาเฟ่ เป็นคาเฟ่สไตล์ขนมไทยที่เมื่อเราเดินเข้ามาในบริเวณร้านเราก็จะได้ฟินไปกับบรรยากาศการตกแต่งร้านแบบเรียบง่าย สไตล์ไทยดั้งเดิม และจุดขายของทางร้านก็คือเหล่าเมนูขนมหวาน และเครื่องดื่มที่ร้านได้นำมาประยุกต์ แนะนำว่าใครที่เป็นคอขนมไทยอยู่แล้วก็ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ โดยร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น.

ViVi The Coffee Place

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือViVi The Coffee Place เป็นคาเฟ่ริมน้ำ เพราะฉะนั้นเมื่อมาเยือนที่นี่เราก็จะได้นั่งชิลจิบกาแฟพร้อมมองวิวแม่น้ำแสนสวยโดยร้านจะตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และฝั่งวิวตรงข้ามก็จะเป็นวัดอรุณราชวราราม กาแฟหลักร้อย ภาพวิวหลักร้าน แนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้านเปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในย่านพระนคร ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนย่านพระนคร คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : bkkmanu, edtguide.com

#รวมร้านย่านพระนคร #ร้านเด็ด #คาเฟ่น่านั่ง

สำหรับไข่ต้มยางมะตูมจะเป็นไข่ที่หลังจากต้มเสร็จแล้วไข่แดงจะเยิ้มๆ เหมือนยางมะตูมนั่นเอง หลายคนชอบทานเป็นอย่างมาก เพราะจะให้ความรู้สึกที่มันอร่อยกว่าไข่ที่ต้มจนไข่แดงสุกแข็ง ปกติเราจะทานไข่ยางมะตูมคู่กับอาหารหลายประเภท รวมทั้งนำมาทานคู่กับข้าวเปล่าร้อนๆ เยาะน้ำปลาพริกเล็กน้อย แค่นี้ก็อร่อยกันแล้วค่ะ แต่คราวนี้เราจะชวนคุณมาชิมก๋วยเตี๋ยวไข่ยางประตูมที่ร้าน ก๋วยเตี๋ยวเรือไข่มะตูมสำราญทอง กันค่ะ ก๋วยเตี๋ยวที่ว่าอร่อยเด็ดแล้วมาเจอไข่ยางมะตูมเข้าไปอีกบอกเลยว่างานนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว 

รายการอาหาร 

ต้องบอกก่อนว่าก๋วยเตี๋ยวเรือของร้านนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่นเล็กน้อย นั่นก็คือนอกจากจะมีไข่ยางมะตูมใส่มาในชามก๋วยเตี๋ยวด้วยแล้ว เนื้อที่นำมาทำก๋วยเตี๋ยวของทางร้านจะไม่ใช่เนื้อแบบร้านอื่น เพราะที่นี่เขาจะนำเนื้อหมูชาบู และ เนื้องน่องลาย มาเป็นส่วนประกอบค่ะ โดยเริ่มจากเมนูที่ลูกค้ามักจะนิยมสั่งก็คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูชาบูไข่มะตูม และ ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน่องลายไข่มะตูม ใครจะไม่เอาไข่ก็ได้เช่นเดียวกันนะคะ บอกได้เลยตอนสั่งอาหาร แต่ส่วนใหญ่จะไม่พลาดที่จะลิ้มลองกันสักครั้ง 

มาที่ก๋วยเตี๋ยวกันต่อ นอกจากเนื้อจะอร่อยนุ่มลิ้น ไข่ยางมะตูมนัวๆ น้ำซุบของที่นี่ยังเข้มข้น หอมกลุ่นกันมาเลย กินไปกินมาอาจซดน้ำซุบแบบลืมตัวจนหมดถ้วยก็เป็นได้ นอกจากรายการอาหารที่เราบอกแล้วที่นี่ยังมีของทานเล่นที่ใครมาก็ต้องสั่งอีกอย่างนั่นก็คือ ลูกชิ้นปิ้ง เมื่อก่อนเรามักจะเห็นขนมถ้วยคู่กับก๋วยเตี๋ยวเรือ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นลูกชิ้นปิ้งกันไปแล้ว ของที่นี่ก็อร่อยจนหลายคนมาต้องสั่งซ้ำกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมก๋วยเตี๋ยวให้เราสั่งเพิ่มได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น แคปหมู กากเจียว น่องลายลวก เกี๊ยวกรอบ เกี๊ยวลวก ลูกชิ้นลวก และซี่โครงหมู เป็นต้น

บรรยากาศภายในร้าน 

ในร้านจะทาผนังด้านหนึ่งเป็นสีส้ม อีกด้านเป็นสีครีม สำหรับสีนี้บอกได้เลยว่าจะยิ่งช่วยเรียกน้ำย่อยให้คุณรู้สึกหิวมากยิ่งขึ้น และเก้าอี้เป็นไม้ทั้งหมด ชวนนั่งเป็นอย่างมาก เพราะนี่หละบรรยากาศของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือขนานแท้กันเลยทีเดียวค่ะ สำหรับราคาอาหารของทางร้านจะอยู่ที่ประมาณชามละ 50-70 บาท ถ้าเพิ่มไข่ยางมะตูมจะอยู่ที่ฟองละ 10 บาท

สถานที่ตั้งสาขาที่เรารีวิวจะเป็นสาขาสามย่าน อยู่ในซอยจุฬา 50 ถนนพระรามที่ 4 อยู่ใกล้กันกลับร้านชาบูนางใน และ ร้านราเมน สุกี้ การเดินทางสะดวกโดยคุณสามารถเดินทางได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT กันเลยค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน

เครดิตภาพ : wongnai.com, sanook.com

#ร้านอร่อยต้องลอง #ร้านดัง #ก๋วยเตี๋ยวเรือไข่มะตูมสำราญทอง

จริงๆ แล้วในบ้านเรามีร้านข้าวมันไก่อร่อยๆ อยู่หลายเจ้า ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละเจ้าก็จะมีสูตรเฉพาะของตนเอง ทำให้รสชาติอร่อยแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่เมื่อนำมาทานกับข้าวมันไก่ก็จะได้ความอร่อยที่ลงตัวมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการหุงข้าวมันไก่ให้ได้เม็ดข้าวที่ยังคงรูปแต่อร่อยนุ่มได้รสชาติของมันไก่แทรกซึมกันแบบทุกอณู ตามด้วยเนื้อไก่ที่นุ่มหนึบ และเหนียวได้ที่กำลังดี บางคนอาจจะชอบทานจะเฉพาะในส่วนเนื้อไก่ แต่บางท่านก็ชอบทานหนังไก่ด้วย โดยบางร้านหนังไก่จะออกแนวกรอบเล็กน้อย แต่บางร้านก็นุ่มละมุนลิ้น รวมไปถึงน้ำซุบที่หอมหวาน เมื่อนำมารวมกันแล้วบอกเลยว่าอร่อยสุดๆ กันทีเดียวค่ะ อย่างที่ร้านข้าวมันไก่ มิดไนท์ไก่ตอน ย่านดอนเมือง ก็เป็นร้านข้าวมันไก่อีกเจ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ความพิเศษของข้าวมันไก่ที่ไม่ธรรมดา

โดยที่นี่จะมีไก่ให้เลือกสองแบบ อย่างแรกจะเป็นไก่ตอนที่เลี้ยงแบบระบบปิด และไก่บ้าน แต่ต้องบอกก่อนว่าไก่บ้านก็จะมีเพียงวันละ 2-3 ตัวเท่านั้น ที่ใช้วิธีเลี้ยงแบบธรรมชาติสุดๆ จึงได้เนื้อไก่ที่แน่น นุ่ม และอร่อย ใครอยากลองกินข้าวมันไก่ที่เป็นไก่บ้าน ต้องไปไวๆ กันหน่อยนะคะ ไปช้ามีหมดก่อนแน่นอน นอกจากนี้อีกอย่างที่เป็นเคล็ดลับทำให้ข้าวมันไก่เรียงเม็ดสวยและหอมอร่อยเป็นอย่างมาก ก็เพราะว่าทางร้านใช้เป็นข้าวหอมมะลิที่หุงด้วยเตาถ่านนั่นเองค่ะ เรียกว่าใส่ใจทุกกระบวนการกันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากน้ำซุบใสที่หวานอร่อยแล้ว เรายังสามารถเลือกชิมน้ำซุบอื่นๆ ของทางร้านได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ไก่ดำตุ๋นยาจีน ขาไก่ตุ๋นมะนาวดอง น้ำซุบเห็ดหอม และต้มมะระ บอกเลยว่าทั้งหมดเข้ากันได้ดีเป็นอย่างมากกับข้าวมันไก่ของร้าน จริงๆ แล้วจะมีเพียงไม่กี่ร้านนะคะ ที่ให้เราสามารถเลือกน้ำซุบได้หลากหลาย ใครยังไม่เคยลองบอกเลยต้องห้ามพลาด 

เวลาเปิดทำการ

ปัจจุบันนอกจากสาขาดอนเมือง ทางร้านยังมีสองสาขาที่จะอยู่แถวรังสิต คลอง 2 ใครสะดวกสาขาไหนก็แวะเวียนไปชิมรสชาติความอร่อยของข้าวมันไก่กันได้เลย ซึ่งทางร้านจะเปิดให้บริการทุกวัน และจะหยุดเฉพาะวันจันทร์และวันอังคารสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเท่านั้น โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 06.30 ถึง 15.30 น. ตอนเย็นไม่ได้ขายกันนะคะ ใครไม่สะดวกกลางวันแนะนำให้มาวันเสาร์ วันอาทิตย์ แต่ต้องบอกก่อนว่าเลือกช่วงเวลาดีๆ เพราะช่วงนั้นคนมักจะแน่นร้านนั่นเองค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจเส้นทางวันนี้เรามีพิกัดของสาขาดอนเมืองมาฝากกันด้วย

เครดิตภาพ : ed.edtfiles-media.com, gourmetandcuisine.com

#ร้านอร่อยสั่งได้ #เดลิเวอรี่ #ข้าวมันไก่ดอนเมือง

ร้านรัชดาชาบู ตั้งอยู่ระหว่าง ประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 22 และ ซอย 24 อยู่ติดถนนเลย หาเจอง่ายมาก ๆ และที่สำคัญเลย มีที่จอดรถลองรับด้วยนะ สามารถเดินทางมาได้ทั้งMRT หรือสามารถขับรถมาเองกันได้เลย ร้านนี้แต่งร้านแบบเรียบง่าย สีสบายตา พื้นสีน้ำตาลออกไม้ ๆ โต๊ะก็เป็นสีน้ำตาล แต่ว่ากำแพงหรือองค์ประกอบอื่น ๆ เป็นสีดำ ทำให้ดูเหมือนห้องอาหารส่วนตัวไปเลย มีมุมกระจกให้มองออกไปสบายตาด้วย ทำให้รู้สึกไม่อึดอัดเวลากิน  ที่สำคัญหลายเสียงบอกกันว่า จัดจ้านเรื่องน้ำจิ้ม น้ำซุปทางร้านจะมีทั้งหมด 3 สูตร คือสูตร น้ำใส น้ำดำ และเกาหลี อร่อยต่างกันหมดเลย. ราคาก็มีทั้งหมด 3 ราคาเช่นกัน มี. 259 / 359 / 399 และการจัดโต๊ะของแแต่ละโต๊ะค่อนข้างห่างกัน ทำให้สบายใจที่จะทั้งกิน ทั้งพูดคุยกันเลยก็ว่าได้

ชาบูกู จันทร์หุ่น  จัดจ้านเรื่องน้ำจิ้มร้านแบบเรียบง่าย ตกแต่งร้านตามสไตล์ชาบูกู น่ารัก ๆ และนั่งสบาย ไม่ได้มีพื้นที่เยอะมาก แต่ก็ไม่ได้นั่งแล้วทำให้รู้สึกว่าอึดอัด ร้านสะอาดมาก เพราะน้อง ๆ ที่สาขาทำความสะอาดกันทุกเช้าเลย บริการดีพนักงานน่ารัก  จัดจ้านเรื่องน้ำจิ้ม และที่สำคัญของสดใหม่ทุกวัน เพราะของจะมาลงทุก ๆ เช้า อร่อยจุใจแน่นอนแถมยังสะอาดสดใหม่ด้วยนะ ทางร้าน ชาบูกู จันทร์หุ่น จะมีราคาบุฟเฟ่ต์ให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ 199 บาท , 279 บาท , 379 บาท และที่สำคัญคือไม่จำกัดเวลาด้วยนะ ไม่ว่าจะแบบไหนถ้าท้องยังไม่แตกก็สามารถต่อกันได้ยาว ๆ กันเลย รีบ ๆ ไปรุมกันที่ร้านร้านจะอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนจันทร์หุ่นเลย ถ้าผ่านมาแถวนี้มองยังไงก็เห็น ยังไงลองมาทานกันนะ

Happy Suki  จัดจ้านเรื่องน้ำจิ้มเอาใจสายกินมาก สำหรับ Happy Suki  เป็นอีกร้านหนึ่งที่ จัดจ้านเรื่องน้ำจิ้ม อยู่ในโซนของพื้นที่ห้วยขวาง  ราคาไม่ไม่แพง ที่สำคัญกินได้อั้นเลย  ในส่วนของงานบริการของพนักงานถือว่ารวดเร็ว และมีความสะอาดเป็นอย่างมาก  ในส่วนของความพิเศษของร้าน Happy Suki นี้ ก็คือรสชาติเครื่องเทศในน้ำซุปที่เด่นนำออกมานั่นเอง แต่ถ้าคนที่ชอบรสชาติแนวเกาหลี เครื่องเทศอ่อน ๆ ร้านนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ ทีเด็ดอีก 1 อย่างนั้นก็คือน้ำ จิ้มที่รสจัดจ้น แบบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย เอาใจคนชอบทานเผ็ดได้ดีเลยทีเดียว ทางร้านมีความใส่ใจในการคัดสรรวัตุดิบ  เพราะเชื่อว่า ถ้าลูกค้าได้รับปะทานอาหารดี ๆ ชีวิตก็จะดีตามไปด้วยนั้นเอง  การเดินทางไปยังร้านก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร มีรุสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบาย

เครดิตภาพ : ryoiireview.com

#ร้านอร่อยต้องลอง #จัดจ้านน้ำจิ้มเด็ด #รีวิวชาบู

ปกติเวลาไปเที่ยวอยุธยา ใคร ๆ ก็คงอยากกินกุ้งเผาแม่น้ำตัวโต ๆ กันใช่มั้ยล่ะ แต่เรามีร้านที่เด็ดกว่านั้น อร่อยแซ่บได้ในราคาไม่กี่ร้อยบาท แถมอิ่มพุงกางแน่นอน 

ร้านนี้ มีชื่อสั้น ๆ เลยว่า “กุ้งอบวุ้นเส้น” เป็นร้านเล็ก ๆ อารมณ์ธุรกิจครอบครัว เปิดมานานหลายสิบปี ขายดีมาก แบบว่าร้านเปิดตอน 5 โมงเย็น ไม่เกินครึ่งชม. โต๊ะเต็มเกือบหมดซะแล้ว แต่การต่อคิวยาว ๆ เพื่อแลกกับของอร่อย นั่นไม่ใช่อุปสรรค ร้านนี้เขาจะทำเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นสด ๆ หน้าร้าน หม้อต่อหม้อ มีเมนูซีฟู้ดหลากหลาย ทั้งหมึก กุ้งและหอย ราคาก็อยู่ที่หลักสิบ – หลักร้อย กินสามสี่เมนู ยังไม่ถึง 500 บาท 

เราเจอร้านนี้แบบบังเอิญ เพราะเคยไปเดินเล่นแถวตลาดนัด พิกัดหน้าวัดมหาธาตุ อยุธยา ชาวบ้านแถวนั้นจะเรียกตลาดนี้ว่า ตลาดโองการฯ เพราะมันตั้งอยู่แถวองค์การโทรศัพท์ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงแวะเวียนมาชิม แต่นักท่องเที่ยวก็มีเหมือนกัน เป็นร้านเล็ก ๆ ที่รสชาติไม่ธรรมดา คนท้องถิ่นการันตีเลยว่าเด็ดจริง 

ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 17.00 -21.00 น. แต่สักสองทุ่มกว่า ของเริ่มหมดแล้ว ต้องมาไวหน่อย เมนูที่ห้ามพลาดและเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ก็คือกุ้งอบวุ้นเส้น เพิ่มเห็ดออริจินัล แค่ 10 บาท รวมเป็น 70 บาท ได้กุ้งตัวโต ๆ 3 -4 ตัว วุ้นเส้นุน่มสุด ๆ และรสชาติหอมละมุนมาก ยิ่งเพิ่มเห็ดอบมาด้วยกัน อร่อยฟินมาก อร่อยแบบว่าไม่กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็อร่อยแล้ว 

เมนูต่อไป ที่แทบทุกโต๊ะ ต้องมีสิ่งนี้ นั่นก็คือ ปลาทับทิมนึ่งมะนาว และหมึกนึ่งมะนาว เนื้อปลาหวานสดและฉ่ำมาก ยิ่งซดน้ำราดตอนเสิร์ฟมาบนหม้อไฟ แซ่บลืมเลยล่ะ มันกลมกล่อม น้ำราดรสชาติดีมาก ไม่ได้เผ็ดจัด แต่ทุกรสถูกปรุงได้ลงตัวมาก เนื้อปลาหมึกก็สด หนึบ และหวานฉ่ำ รู้เลยว่าเขาเลือกของดีจริง ๆ ไม่หวงที่ใช้วัตถุดิบดี ๆ เลย ราคาอยู่ที่ 200-240 บาท 

ต่อมาต้องสั่งหอยแครงลวก ที่นี่น่ารักมาก เขาจะแกะหอยเปิดฝามาให้เลย เลือกระดับความสุกได้ อาหารมาเสิร์ฟตรงปก ขอสุกแบบไหน ได้แบบนั้นเลย แถมไม่ต้องมาแกะเองให้เปื้อนมื้อด้วย ราคาอยู่ที่ 100 บาทเอง ได้หอยมากกว่า 20 ตัวเลยนะ และตัวโตซะด้วย 

เมนูอื่น ๆ ก็จะมีทั้งหมูมะนาว กุ้งแช่น้ำปลา ราคา 70 บาท หอยแมลงภู่อบสมุนไพร  ราคา 60 บาท หอมมาก ๆ เนื้อฉ่ำหวานแน่นอน และยังมีเซ็ตหอยนางรมทรงเครื่อง มีเครื่องเคียงทั้งกระเทียม พริก กระถิน หอมเจียว เสิร์ฟมาด้วยครบ และได้หอยตัวขนาดกำลังกินเลย สด เนื้อหวาน เรียกว่าคุ้ม เพราะราคาเพียง 70 บาท

หลัก ๆ จะมีเมนูประมาณนี้เลย ใครอยากกินคู่กับข้าวเปล่า ก็มีบริการ ราคาเพียง 10 บาท แต่ได้ข้าวเยอะ เหมือนขายไม่เน้นกำไรมากมาย เน้นให้คนทานมีความสุขและกลับมาทานซ้ำ แถมคนขายพนักงาน อัธยาศัยดีกันทุกคน ไม่มีเหวี่ยงวีน แม้ลูกค้าจะรอเยอะแค่ไหนก็ตาม ช่วงคิวแน่น ๆ ใช้เวลารอประมาณ 20 นาทีได้เลยนะ แนะนำให้มาเร็ว ๆ ใกล้เวลาร้านเปิด ไม่ก็ไปเดินเล่นตลาดนัดรอได้ ที่นี่ของถูก ได้บรรยากาศแบบบ้าน ๆ ได้เสพอาหารสตรีทฟู้ดที่รสชาติดี และราคาไม่แพง แบบนี้ห้ามพลาดแล้วล่ะ อย่าลืมตามรอยมากินกันนะ อร่อยเด็ดแน่นอน 

เครดิตภาพ : fb ร้านกุ้งอบวุ้นเส้น

#ร้านกุ้งอบวุ้นเส้น อยุธยา #ร้านอร่อยริมทาง #ร้านอร่อยต้องลอง

เคยเป็นกันมั้ย เวลาตกค่ำ ท้องมันเริ่มหิว ยิ่งดึกก็ยิ่งหิว ถ้าเผลอเลื่อนฟีดไปเจอเพื่อน ๆ โพสต์ภาพอาหาร ทำให้ยิ่งกระตุ้นน้ำย่อยให้กระเพาะ จนต้องรีบออกมาหาอะไรกินตามบ้าง ยามดึกแบบนี้ไม่มีอะไรจะดีเท่าข้าวต้มโต้รุ่งแน่ ๆ วันนี้เลยจะพาไปลองกินข้าวต้มร้านดังในย่านสามเสน อยู่ตรงข้ามกรมชลประทาน พิกัดก็หาง่าย เป็นร้านข้างทางชิล ๆ มีเสน่ห์มาก ๆ สมกับที่ไทยเราเป็นดินแดนแห่งสตรีทฟู้ด ร้านนี้ก็คือ “ข้าวต้มเจ๊มุก” เสน่ห์คือของร้านต้มก็คือความวุ่นวาย คิวแน่น และต้องรออาหารสักเล็กน้อย ยิ่งหลังครัววุ่น ๆ วันนั้นอาหารยิ่งอร่อยถูกปาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 

สำหรับร้านข้าวต้มเจ๊มุก ต้องบอกว่ามีชื่อเสียง และดังในโซเชียลมาก ๆ ติตดามได้จากเพจข้าวต้มเจ๊มุก จะมีแอดมินมาอัพเดตภาพเมนูอาหารต่าง ๆ ยั่วน้ำลายมาก เมนูอาหารมีให้เลือกมากกว่า 50 เมนูแน่นอน เยอะจนตาลาย มีข้าวให้เลือก ทั้งข้าวต้ม และข้าวสวย ตอนนี้ข้าวต้มราคาอยู่ที่ 5 บาท ถือว่าราคาเบา ๆ และอาหารจะอยู่ที่ราคาประมาณ 80 ขึ้นไป แต่ละจานให้เยอะ รสชาติดี ทำอาหารไว ที่นั่งเยอะ แต่ที่จอดรถอาจจะต้องจอดข้างทางบ้าง จอดที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆแล้วเดินมาบ้าง แต่ถึงขนาดไม่มีที่จอด คนก็แน่นทุกวัน ปกติร้านนี้จะเปิดตั้งแต่ 17.00 -02.00 น. โต้รุ่งกันให้สุดไปเลย แต่ถ้าช่วงติดเคอร์ฟิว แนะนำเผื่อเวลาเดินทางด้วย อาจจะขาดหายบรรยากาศโต้รุ่งไปบ้าง แต่รับรองว่ารสชาติอาหาร การันตีความอร่อย 

เมนูเด็ดของร้านนี้ น่ากินไปซะทุกอย่าง ทั้งผัด ต้ม ยำ และทอด อาหารป่าก็มี ถูกใจคนทุกวัย เมนูที่มาแล้วต้องลองกิน คงจะเป็นหมูสับผัดหนำเลี๊ยบ , ผัดคะน้าหมูกรอบ หมูกรอบ กรอบแบบชุ่มฉ่ำ ยิ่งลงไปอยู่ในผัดคะน้าและมีน้ำซอสฉ่ำ ๆ เคลือบไว้ ตอนตักกินในข้าวต้ม ฟินมาก , ยำหมูแผ่น ใส่เนื้อหมูแผ่นกรอบ ๆ  เนื้อแน่น รสชาติกลมกล่อม , ต้มยำรวมมิตร มาแบบถ้วยใหญ่ รสชาติจัดจ้าน , ไส้ตันทอดกระเทียม คือรสชาติหอมมาก มีกลิ่นกระเทียมและทอดได้กรอบ ใคร ๆ ก็ชอบ เพราะสั่งเกือบทุกโต๊ะ , กระเพราะนกสับ จะเน้นผัดแห้ง ๆ พริกจุก ๆ แต่กินกับข้าวสวยแล้วอร่อยเด็ด , กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสด กรอบ และหวาน , ผักยอดฟักแม้ว ก็เป็นเมนูยอดฮิต บางวันหมดไว ใครที่ชอบทานต้องรีบไปหน่อย และยังมีเมนูปลาหมึกผัดไข่แดง , ผัดโป๊ยเซียน ยำปลาสลิดทอด และโป๊ะแตกทะเล 

ราคาอาหารจะเริ่มต้นที่ 80 -250 บาท ถ้ามาทานเป็นกลุ่ม หรือกับครอบครัว คุ้มเลยจริง ๆ อาหารเยอะทุกจาน ราคาย่อมเยาว์ แต่ละวันคิวแน่น ต้องรีบมา อาหารรอไม่นาน ทำรวดเร็วทันใจแม้จะคิวแน่นสุด ๆ ยกให้เป็นร้านข้าวต้มโต้รุ่งใจกลางเมืองที่น่าแวะมาฝากท้องอีกร้านเลยทีเดียว สามารถดูรายละเอียดเมนูและติดตามเส้นทางเพิ่มเติม ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ร้านข้าวต้มเจ๊มุก 

เครดิตภาพ : fbร้านข้าวต้มเจ๊มุก

#ร้านข้าวต้มเจ๊มุก #ร้านอร่อย #ร้านเด็ดสั่งเลย