Category: ส่งถึงบ้าน

ในหมู่เมนูอาหารมากมายร้อยแปดพันเก้าที่เรานิยมรับประทานกันในชีวิตประจำวันอย่างเอร็ดอร่อยจนคิดว่าเมนูอาหารเหล่านั้นเป็นเมนูอาหารท้องถิ่นของย่านที่คุณไปหรือเป็นเมนูที่กำเนิดจากสูตรเก่าแก่ของคนในชุมชนนั้นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานจนมีชื่อเสียง ใครจะรู้ว่าเมนูอาหารบางเมนูก็ไม่ได้กำเนิดขึ้นมาจากในประเทศไทย แต่เป็นเมนูอาหารที่มาจากต่างประเทศก่อนจะเข้ามาเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหลายสิบปีหรือเป็นร้อยปีแล้วจนคนรุ่นใหม่คือกันไปเองว่าเป็นเมนูอาหารไทย ด้วยลักษณะหน้าตาของเมนูอาหารที่เครื่องเคียงไม่ต่างจากวัตถุดิบไทยมาก โดยหากพูดถึงอาหารต้นตำรับจากต่างประเทศต่างเชื้อชาติที่เข้ามาในไทยและมีอิทธิพลมากเป็นอับดับต้น ๆ ก็ต้องเป็นอาหารญวนที่ได้มีการนำมาประยุกต์ควบคู่กับอาหารมากมายในเมืองไทยจนกลายเป็นรสชาติที่ออกแนวใกล้เคียงกันและทำให้แนวคิดสูตรอาหารของคนไทยมีการพัฒนาที่ปรับเปลี่ยนจากเมื่อก่อนมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งญวนก็เป็นกลุ่มชนชาวเวียดนามที่ย้ายเข้ามาอยู่ในไทยตั้งแต่อดีตจึงนำเอาวัฒนธรรมอาหารเข้ามาด้วย โดยวันนี้เราจะมาแนะนำ 3 อาหารซึ่งคนอื่นไม่รู้มาก่อนว่ามีต้นกำเนิดจากญวนมาแนะนำกัน

“แหนมเนือง” อาหารต้นกำเนิดจากญวน

“แหนมเนือง” เป็นเมนูอาหารเวียดนามจากญวนชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมรับประทานกันมากตามสตรีทฟู้ดส์โดยเมนูนี้ถูกเรียกอีกชื่อว่า “เมี่ยงหมูย่าง” เพราะคนทำจะนำแผ่นแป้งบาง ๆ มาห่อหมูบดปรุงรสใส่เครื่องมากมายสารพัดไม่ว่าจะเป็นกล้วยดิบ กระเทียม มะเฟืองดิบที่ให้ความหวานเปรี้ยวกับกลิ่นที่มีความหอมโด่งอร่อยตามแบบเอกลักษณ์ของคนญวนที่ชอบอาหารห่อไส้หนัก ๆ อยู่แล้วก่อนจะปั้นเป็นก้อนเสียบไม้ย่างบนเตาปิ้งจนสุก คุณก็สามารถรับประทานกับน้ำจิ้ม และเครื่องเคียงผักสดหลายได้อย่างอร่อยเลย ทำให้แหนมเนืองกลายมาเป็นอาหารระดับตำนานที่คนไทยไม่รู้กันว่ามาจากญวนและเป็นของฝากให้กันได้ด้วย

“ขนมจีนน้ำใส” อาหารต้นกำเนิดจากญวน

“ขนมจีนน้ำใส” เป็นเมนูอาหารที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากญวน ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปกระดูกหมูใสที่ใส่ส่วนผสมพิเศษให้ความเผ็ดร้อนอย่างเครื่องเทศพวกพริก มะเขือเทศ ผักดอง หมูสับและเลือดหมูซึ่งให้ความอร่อย หอมนุ่มละมุนเหมาะกับเส้นขนมจีนที่เป็นเส้นกลมยาวสีขาวมีความหนา ซึ่งความจริงแล้วขนมจีนทุกเมนูก็มีต้นกำเนิดมาจากญวนทั้งนั้น และเรียกกันด้วยชื่อจริงว่า “คะนอจีน” แต่สำหรับขนมจีนน้ำใสนี้ได้รับการประยุกต์มาจากเมนู “เฝอ”หรือก๋วยเตี๋ยวเอกลักษณ์ประจำชาติของเวียดนามมากกว่าจะเหมือนเมนูขนมจีนแห้งอื่น ๆ โดยจังหวัดที่ดังเรื่องการนำเมนูนี้มาประยุกต์จนฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง คือ “แพร่”นี่เอง

“ปอเปี๊ยะสด” อาหารต้นกำเนิดจากญวน

“ปอเปี๊ยะสด” เป็นหนึ่งในเมนูอาหารยัดไส้สุดอร่อยยอดนิยมของคนไทยที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากญวน ด้วยเมนูนี้ถือเป็นอาหารของว่างรองท้องคู่บ้านคู่เรือนของคนไทยมานมนานแล้ว ซึ่งคนไทยจะนิยมเรียกกันว่า “ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน” เพราะมีการนำเส้นใหญ่ที่มีความบางสีขาวมาพันรอบไส้ผักหลากชนิดกับเนื้อสัตว์ละเอียดที่ปรุงรสมาแล้วนึ่งจนสุกก่อนจะราดด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษที่มีความอร่อยทำให้มีความอิ่มท้องเหมือนรับประทานก๋วยเตี๋ยวแห้งสำเร็จรูปที่เรียบง่ายเป็นชิ้น ๆ ทำให้ใคร ๆ ก็รักเมนูอาหารสุขภาพนี้มาก

เครดิตภาพ : tipawanfood.com, matichon.co.th

#เมนูเด็ด #แหนมเนือง #อาหารจากญวน

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในชะอำ ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเลยก็ว่าได้ โดยชะอำจะเด่นในเรื่องของหาดทรายขาว แหล่งเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือเหล่าคาเฟ่ ที่เปิดตัวกันอย่างมากมาย ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Little Sea Cafe

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือLittle Sea Cafe เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตัวร้ายตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงแรม Siambeach Huahin โดยตัวร้านจะไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่มาก ด้านในมีโต๊ะแค่สองโต๊ะ เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นร้านก็ยังมีโซนด้านนอกน่ารักๆ ให้เลือกนั่งอีกหลายมุม ซึ่งแต่ละมุมมีการจัดตกแต่ง ให้ถ่ายรูปออกมาได้แบบสวยๆ ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มและขนมก็หลากหลาย ซึ่งขนมของทางร้านทำเอง มีห้องอบขนมอยู่ติดกับตัวร้านเลยนั้นเอง 

ตั้งอยู่ที่ : ถ. เพชรเกษม ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ เพชรบุรี 

Baan Chok Cafe & Eatery

ไม่รอช้าเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือBaan Chok Cafe & Eatery เป็นคาเฟ่ที่ตัวร้านเป็นบ้านสีขาวริมทะเลในสไตล์โคโลเนียล โดยถูกปรับจากบ้านพักตากอากาศมาเป็นคาเฟ่บรรยากาศที่มีตัวร้านเป็นเรือนกระจก มีโซนให้นั่งทั้งด้านในและด้านนอกร้าน ในส่วนของเมนูอาหารก็น่าทานทั้งนั้น มีทั้งอาหารทานเล่นเบาๆ อย่าง สลัด แซนวิช พาสต้า รวมไปถึงอาหารฟิวชั่นอย่าง พาสต้าซอสแกงปู และขนมหวานเครื่องดื่มอีกหลากหลายเมนู

ตั้งอยู่ที่ : อำเภอชะอำ เพชรบุรี 

Le Cereste Cafe

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือLe Cereste Cafe เป็นคาเฟ่อาหารใต้ที่จะนำเสนอ เมนูอาหารปักษ์ใต้ยอดนิยมทั้ง ข้าวยำ คั่วกลิ้ง แกงเหลือง และแกงไตปลา โดยภายในร้านมีการตกแต่งแนวหวานๆสไตล์เมืองชนบทของประเทศฝรั่งเศส มีโซนที่นั่งทั้งในห้องแอร์และลานสวนด้านนอก ใครอยากได้รูปไม่ผิดหวังเพราะทางร้านได้จัดมุมถ่ายรูปไว้ให้มากมาย ใครชื่นชอบอาหารใต้อยู่แล้วต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ เพชรบุรี

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในชะอำ ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนชะอำ คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : ryoiireview.com, facebook.com/somewhereinacup

#ร้านเด็ด #รวมคาเฟ่ #คาเฟ่ ชะอำ

เมื่อมาถึงหาดจอมเทียนซึ่งเป็นชายหาดดังของพัทยาทั้งที สิ่งแรกที่เราทำหลังจากเอาสัมภาระไปเก็บที่ห้องก็คือการได้กระโดดลงมายังชายหาดที่ขาวสะอาดในช่วงที่ผู้คนไม่เยอะมากนัก ด้วยเพราะตอนนี้เพิ่งมีการคลายล็อกดาวน์และเป็นวันธรรมดาด้วย จึงเหมือนชายหาดในตัวเมืองใหญ่แห่งนี้ไม่แตกต่างจากชายหาดแถวภาคใต้ที่เงียบสงบเลย ได้นั่ง ๆ นอน ๆ พิงเปลและเอาเท้าจุ่มทรายให้เย็นสบายแบบนี้นี่ล่ะสวรรค์ของเราแล้ว แต่ที่พลาดไม่ได้ในระหว่างนี้ก็คือ “ของกิน!” เราจะนั่งนอนถ่ายรูปแบบนี้หลายชั่วโมงหลังจากเล่นน้ำแล้วก็ดูจะขาดสีสันในการมาชายหาดจอมเทียนหน่อยหากไม่ได้สั่งของกินมา จะบอกให้ว่าหาดจอมเทียนมีบริการที่นั่งและสั่งอาหารรับประทานที่ชายหาดอย่างครบครันมาก เราจึงไม่ลำบากเลย แถมนอกจากอาหารอร่อย ๆ แล้วที่จะพลาดมองหาไม่ได้ก็คือ “น้ำส้มลุงตั้ม” เครื่องดื่มน้ำผลไม้หวานฉ่ำคล้ายร้อนที่ต้องมาลองสักครั้งให้ได้ หากมาหาดจอมเทียนแล้วไม่ได้ชิมน้ำส้มลุงตั้มล่ะก็ถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ!

ทำความรู้จักกับ “น้ำส้มลุงตั้ม”@หาดจอมเทียน

“น้ำส้มลุงตั้ม” ถือได้ว่าเป็นน้ำผลไม้เลื่องชื่ออีกเจ้าหนึ่งของหาดจอมเทียน พัทยา ซึ่งน้ำส้มของลุงตั้มจะคั้นความอร่อยจากส้มพันธุ์สีทองแท้จากไร่ ไร้สารกันบูด ไม่มีน้ำตาล ซึ่งส้มพันธุ์สีทองมีชื่อในเรื่องของความหวานฉ่ำอร่อยเหมาะกับการดื่มไปชมคลื่นทะเลในวันชิลล์ ๆ ไปมาก ในแต่ละวันลุงตั้มจะออกมาเดินตระเวนขายน้ำส้มที่ตัวเองทำตามชายหาดจอมเทียนของพัทยา ซึ่งตอนเราไปนั่งก็เจอลุงมาเดินขายพอดี ลุงตั้มเป็นคนที่อัธยาศัยดี เป็นกันเอง และมีความนอบน้อมสู้ชีวิตมาก นอกจากจะขายน้ำส้มแล้วก็ยังขายหอยนางรมให้นักท่องเที่ยวด้วย ฉะนั้นใช่ว่าอยากจะดื่มน้ำส้มลุงตั้มแล้วจะซื้อได้เดี๋ยวนั้นเลยนะ ต้องแล้วแต่ดวงด้วยว่าลุงตั้มจะอยู่แถวไหน ตอนเราไปนั่งที่ชายหาดส่วนใหญ่ก็เหมือนเห็นลุงจะชอบมาขายอยู่ชายหาดหน้าโรงแรม The Now Hotel Jomtien ถ้าอยากซื้อก็ชวนกันไปเล่นน้ำหน้าโรงแรมนี้ก็ได้ 

แต่ ๆ ๆ อย่าหมดหวังหากคุณไม่อยากหาลุงตั้ม สำหรับใครที่เข้ามาอ่านบทความนี้ เรามีเบอร์โทรศัพท์ลุงตั้มมาบอกท้ายบทความด้วยเผื่อใครอยากอุดหนุนลิ้มล้องความอร่อยเด็ดของน้ำส้มลุงตั้มแห่งหาดจอมเทียน พัทยา เตรียมเฮได้เลย

ความนิยมใน “น้ำส้มลุงตั้ม”@หาดจอมเทียน

“น้ำส้มลุงตั้ม” ปกติแล้วน้ำส้มของลุงตั้มจะขายดีมาก ด้วยเพราะรสชาติที่อร่อยและเป็นน้ำส้มแท้ได้จากส้มพันธุ์สีทองซึ่งมีแค่ลุงตั้มคนเดียวที่ขายน้ำส้มพันธุ์นี้ในบริเวณจอมเทียน พัทยาทำให้ใคร ๆ ก็ซื้อกัน แต่ด้วยเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ ยอดขายของลุงจึงน้อยลง ต้องเดินขายเรียกลูกค้าทุกกลุ่มที่มานั่งตามชายหาดซึ่งลุงโปรโมทเครื่องดื่มน้ำส้มดีมาก มีให้ลองชิมด้วย เราก็เลยซื้อมา 2 – 3 ขวด ช่วย ๆ กัน ประทับใจในความพยายามของลุงตั้ม แล้วก็ไม่ผิดหวังกับรสชาติจริง ๆ

รสชาติความของ  “น้ำส้มลุงตั้ม”@หาดจอมเทียน

“น้ำส้มลุงตั้ม” มีรสชาติที่ดื่มครั้งแรกก็รู้เลยว่าเป็นน้ำส้มแท้จริง เพราะตัวน้ำส้มมีความเปรี้ยวอมหวานเข้มข้นมาก ได้เนื้อส้มนุ่ม ๆ ซึ่งดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ดับกระหายได้ดี ลุงตั้มแช่เย็นมาแบบเปิดปุ๊บรับประทานได้ปั๊บ บริการดีสุด ๆ หลอดพร้อม เสียดายที่พอจะสั่งมาอีกสักขวด ลุงตั้มหายไปซะแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร ไว้วันหน้ามีโอกาสจะไปลองอีกสำหรับน้ำส้มพันธุ์สีทองแท้แห่งเดียวในจอมเทียน พัทยานี้ ราคาก็ไม่แพงเลย ขวดละ 20 บาทเท่านั้น คุณภาพคับขวดจริงพวกเธอ! ต้องมาลอง ๆ

น้ำส้มลุงตั้ม @หาดจอมเทียน

ที่ตั้ง : 279 450 ถนนจอมเทียนสายหนึ่ง ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150

ก๋วยเตี๋ยวหลอด นับเป็นเมนูหาทานยากที่จะมีขายแค่บางพื้นที่เท่านั้น เนื่องจากเป็นอาหารโบราณที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ อีกทั้งผู้คนยังไม่ค่อยรู้จัก แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวหลอด หากคุณแวะผ่านทางมาที่พัทยา ผู้เขียนขอแนะนำว่า ห้ามพลาดก๋วยเตี๋ยวหลอดเนินพลับหวานเด็ดขาด เพราะนี่ถือเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดที่อร่อยที่สุดในชีวิตของผู้เขียนเลยก็ว่าได้

ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวหลอดเนินพลับหวาน

ก๋วยเตี๋ยวหลอดเนินพลับหวานเป็นร้านข้างทางที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน แต่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะทางร้านทำอย่างถูกสุขอนามัย มีการใส่ถาดปิดฝาครอบเรียบร้อย ไม่มีแมลงวันมาตอม แม้ว่าที่ตั้งของทางร้านจะติดกับถนนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะสกปรก เพราะแม่ค้าดูแลอย่างดี ด้านรสชาติและราคาเองก็คุ้มค่า โดยก๋วยเตี๋ยวหลอดชิ้นนึงตกอยู่ที่ 15-20 บาทแล้วแต่ไส้ กิน 2-3 ชิ้นก็อิ่มเหมือนกินข้าวมื้อหนึ่งแล้ว และช่วงนี้ทางร้านยังมีคนละครึ่งอีกด้วย ทางด้านรสชาตินั้นบอกเลยว่าเป็นตัวชูโรง ใครได้ชิมถือเป็นบุญปาก ด้วยทางร้านนั้นมีก๋วยเตี๋ยวหลอดให้ลูกค้าได้เลือกตามความชอบถึง 12 ไส้ ซึ่งจะมีทั้งไส้ผักสำหรับคนที่กินเจหรือเป็นมังสวิรัติและไส้เนื้อสำหรับใครที่อยากกินก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบอิ่มเอม โดยจะมีทั้ง ไส้กุยช่าย ไส้หน่อไม้ ไส้หมูสับ ไส้ปูอัด และอื่นๆอีกมากมาย แวะไปซื้อเองที่ร้านหรือจะสั่งเดลิเวอรี่ผ่านแอพก็ได้ทั้งนั้น แต่ละไส้จะมีความแน่น เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ สำหรับใครที่ไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวหลอด ลักษณะจะเป็นของคาว คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวน คือ เป็นแผ่นแป้งบางๆรสชาติคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ห่อไส้เอาไว้ แล้วถูกนำมาหั่นเป็นชิ้นเพื่อให้สะดวกต่อการจิ้มกิน ทางร้านจะมีเครื่องเคียงแถมให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอมเจียวกรุบกรอบ ผักใบเขียวต่างๆ เต้าหู้ กุ้งแห้ง เกี๊ยวกรอบ เพื่อตัดเลี่ยนตัวก๋วยเตี๋ยวหลอด ในส่วนของน้ำจิ้มนั้น น่าเสียดายที่มีให้เลือกเพียงแบบเดียว คือ น้ำจิ้มกุยช่ายสีดำ พอกินกับก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุยช่ายก็รู้สึกเหมือนกินขนมกุยช่ายอยู่จริงๆ เพราะตัวน้ำจิ้มมีรสชาติหวานปนขมของซีอิ๊วดำ สำหรับใครที่ไม่ชอบน้ำจิ้มกุยช่ายก็อาจต้องทำใจกันหน่อย

ข้อเสียนึงของก๋วยเตี๋ยวหลอดเนินพลับหวาน คือ แม้ราคาจะถูก เครื่องเคียงเยอะ รสชาติอร่อย แต่ค่อนข้างรับประทานยากไปเสียหน่อย เพราะให้ไส้มาเยอะมาก หาทางกินให้ไส้ไม่หกยากมาก ซึ่งสำหรับใครที่อยากลองซื้อก๋วยเตี๋ยวหลอดเนินพลับหวานมาชิมซักครั้ง สามารถแวะไปอุดหนุนที่ร้านกันได้ รับรองเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

เครดิตภาพจาก เที่ยว สไตล์ “Gu”

#ร้านอร่อยต้องลอง #ร้านเด็ด #ก๋วยเตี๋ยวหลอด

สมัยนี้ร้านกาแฟหรือคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ความดั้งเดิมของสภาพแวดล้อมในภาคนั้น ๆ เริ่มจะลดน้อยลง โดยเฉพาะคาเฟ่สไตล์บ้านภาคเหนือนั้นยิ่งน้อยลงจนแทบไม่ค่อยพบเห็นแล้ว ซึ่งการที่มีน้อยลงจนหายากนี่ล่ะคือจุดหมายที่นักท่องคาเฟ่อย่างพวกเราหลายคนอยากที่จะสืบเสาะและค้นหาคาเฟ่เหล่านั้นให้เจอเพื่อบอกเล่าแก่ทุกคนว่ายังมีคาเฟ่ดี ๆ แบบดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่และไม่สูญหายไปตามกาลเวลาที่นั่นที่นี่นะ แน่นอนว่ายิ่งบอกเล่า คนก็ยิ่งมากันเยอะ ผลที่ตามมาคือความคงอยู่ยืนยาวที่มากขึ้นของคาเฟ่นั้นที่จากคนน้อยจะได้กลับมามีสีสันและรอยยิ้มของผู้คนที่เข้ามานั่งรับประทานของอร่อยกันด้วยความสุขดุจวันวานอีกครั้ง 

หนึ่งในคาเฟ่สไตล์ดั้งเดิมที่เราอยากจะมาแนะนำทุกคนในวันนี้ก็เป็นคาเฟ่เมืองน่านที่คุณอาจจะไม่เคยได้รู้จักมาก่อนก็เป็นได้ คาเฟ่นี้คือ “ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ” ที่จะทำให้ทุกคนที่เข้ามาได้สัมผัสกับเรื่องราววิถีชีวิตของชาวบ้านทางเหนือในยุคสมัยก่อนอีกครั้ง เรามาทำความรู้จักกับร้านกาแฟบ้านไทลื้อกันเลยดีกว่า เผื่อว่าในฤดูหนาวคุณจะอยากเลือกคาเฟ่นี้เป็นจุดหมายในการมาเที่ยวเมืองน่าน ถ้าพลาดแล้วคงเสียดายน่าดู

ทำความรู้จักกับ “ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ”

“ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ” เป็นร้านกาแฟแบบบ้านไทลื้อดั้งเดิมกลางทุ่งนาอันกว้างใหญ่ ติดกับเทือกเขาที่สลับซับซ้อนตระการตาด้านหลัง อยู่ในอำเภอปัว โดยคาเฟ่นี้ก่อตั้งแยกมาจากร้านลำดวนผ้าทอที่ได้สร้างสรรค์ผ้าทอพื้นเมืองขึ้นชื่อของอำเภอปัวแห่งเมืองน่านมาหลายยุคหลายสมัยไม่ว่าจะเป็นผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล หรือผ้าทอลายโบราณ ทำให้ทุกคนที่เข้ามารับประทานของอร่อยในร้านกาแฟบ้านไทลื้อ นอกจากนี้ก็ยังสามารถมาเลือกซื้อผ้าทอสวย ๆ ในรูปแบบซิ่น เสื้อผ้า และชมการทอผ้าตามวัฒนธรรมไทลื้อได้ด้วย

บรรยากาศของ “ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ”

“ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ” จะอยู่ด้านหลังโซนด้านหน้าที่เป็นร้านขายผ้าทอของลำดวนซึ่งมีลักษณะเป็นร้านกระท่อมไม้มุงแฝกยื่นออกมากลางทุ่งนาที่ตั้งเป็นกลุ่มบ้านคล้ายชุมชนไทยลื้อดั้งเดิม มีการตกแต่งเพิ่มสีสันให้ตัวร้านด้วยภาพวาดปู่ม่านย่าม่าน และภาพจิตรกรรมฝาผนังชื่อดังของเมืองน่านหลายต่อหลายภาพ อีกทั้งยังมีการนำข้าวของเครื่องใช้โบราณ เช่น ครก กระบุง กระจาด ตะเกียง โบราณ มาประดับตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนได้นั่งอยู่ในบ้านของชาวบ้านไทลื้อโบราณอย่างแท้จริง สามารถชมทิวทัศน์ภูเขาที่โดดเด่นติดทุ่งนาสีเขียวได้อย่างสดชื่นสวยงามราวกับภาพในความฝัน

ส่วนด้านนอกก็มีสะพานไม้โบราณแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความยาวแยกไปกลางทุ่งนาให้ลูกค้าสามารถไปนั่งตามซุ้มต่าง ๆ ที่มีการตกแต่งด้วยหมอนอิงโบราณสามารถนั่งชมวิว ได้กลิ่นทุ่งนา สายหมอก และเครื่องดื่มหอม ๆ บรรยากาศเย็นสบายได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น บนสะพานไม้บางมุมจะมีการนำผ้าทอหลากสีมาพาดราวไว้ เมื่อต้องกับลมจะปลิวสยายกลางทุ่งนางดงามเป็นที่สุด หากเป็นช่วงพฤศจิกายน นาข้าวก็จะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ยิ่งวันไหนแดดร่ม และมีหมอกลงหนาแล้วล่ะก็ไม่ต่างกับภาพวาดทิวทัศน์เมืองน่านในอดีตเลย

เมนูเด็ดของ “ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ”

“ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ” มีเครื่องดื่มเด็ด ๆ มากมายรองรับคุณไม่ว่าจะเป็นกาแฟมอคค่า เอเพรสโซ่  ชานม  ชาดำเย็น  และชามะนาวที่ต้องมาลองให้ได้

ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

ที่ตั้ง : 164 หมู่ 4 ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120

เครดิตภาพ : edtguide.com

#ร้านอร่อยต้องสั่ง #ชมนา กาแฟบ้านไทลื้อ #รีวิวคาเฟ่

เที่ยวเมืองรอง ที่ชุมพร มาฟินกับการร้านเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่บนเขามัทรี ยอดเขาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสุดขอบสาบตาม วิวแบบ 360 องศา ร้านจะอยู่บริเวณทางขึ้นเขามัทรี เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของของจังหวัดชุมพรเลยทีเดียว

2 เครื่องดื่มจากร้าน กาแฟสดถ้ำสิงห์ เขามัทรี  ใครบอกว่ามาร้านกาแฟสด จะต้องสั่งแต่เครื่องดื่มกาแฟสด ถึงจะฟิน มาที่นี่เลยร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์  เขามัทรี อากาศร้อน ๆ ที่มีลมพัดเบา ๆ สั่งเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น ก็ฟินได้ไม่น้อยเลย สำหรับ 2 เมนู ที่เห็นได้ว่ามีลูกค้าในร้านสั่งเยอะพอสมควร ก็ต้องเป็น บลูเลม่อนโซดา และ มิกซ์เบอรี่โซดา บอกเลยว่า สดชื่นมาก รสชาติเข้มข้น

บลูเลม่อนโซดา ร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ เขามัทรี

แก้วนี้สายสดใส ไม่ควรพลาด เพราะสีสันสวยงาม อินไปกับสีน้ำทะเล และท้องฟ้าเลยก็ว่าได้  รสชาติเปรี้ยวน้ำ มีกลิ่นหอมของมะนาว โซดาซ่าสดชื่นมาก ๆ อากาศร้อน ๆ แก้วนี้ต้องโดนเลย ที่เขามัทรี ขายราคา 50 บาทเอง

มิกซ์เบอรี่โซดา ร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ เขามัทรี

ร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ เขามัทรี ยังมีเครื่องดื่มสำหรับคนที่ชอบผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งหลาย มีเนื้อเบอรี่ให้ได้เคี้ยว เพิ่มความสนุกในการทาน เพลินทั้งเครื่องดื่ม เพลินทั้งชมวิว แก้วนี้ราคา 60 บาท ฟินให้สุดไปเลย

หน้าร้านจะมีโต๊ะยาวให้นั่ง ที่หันหน้าออกหาวิวโดยเฉพาะ เป็นจุดที่ใครมาก็ต้องมานั่งถ่ายรูปมุมนี้เลย วิวทะเล เขามัทรียาวสุดสายตา บรรยากาศร้านน่านั่ง แต่ช่วงที่ไปอาจจะร้อนไปหน่อย เพราะไปช่วงประมาณ เที่ยง ๆ  ถ้าเพื่อน ๆไปช่วง บ่าย 4 โมง รับรองว่าเพื่อนต้องฟินมากแน่นอน

การเดินทางมาที่จุดชมวิวเขามัทรี โดยรถยนต์ส่วนตัว

ใช้เส้นทางชุมพร-ปากน้ำชุมพร แยกไปทางหาดทรายรี  ต้องขับรถขึ้นเนิน เขามัทรี ประมาณ 800 เมตร จะมีโค้งเลี้ยวไปทางขวา ให้สังเกตทางขึ้น จุดชมวิวเขามัทรีเป็นเส้นทางลาดชัน 30 องศา สภาพถนนราดยางอย่างดี แต่ต้องใช้เกียร์ต่ำค่อย ๆ ขับขึ้นไป อย่างระมัดระวัง เจ้าหน้าที่จะปล่อยรถให้ขึ้น เขามัทรี  ทีละ 2- 4 คันให้เว้นระยะห่างจากกันพอสมควร ระยะทางขึ้นไม่ไกลมาก ไม่ต้องกังวลนะคะ เพื่อนแค่ระมัดระวังช่วงเลี้ยวและรถที่สวนทางลงมา เท่านี้ก็สามารถไปถึงยอดเขามัทรีได้อย่างปลอดภัย และไปฟินกับวิวสวย ๆ ได้เลย

เครดิตภาพ : ธนวรรณ

#อร่อยเด็ดต้องลอง #รีวิวคาเฟ่ #เขามัทรี ชุมพร