Category: โปรโมชั่น

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย ที่ถือได้ว่ามีขนาดพื้นที่เล็กที่สุด แต่ถึงจะเล็กก็มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่น้อย ทั้งธรรมชาติ ร้านอาหาร และที่สำคัญคือคาเฟ่ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

หายใจทิ้ง the Craft Café

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือหายใจทิ้ง the Craft Café เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่กลางสวนมะพร้าว โดยตัวร้านจะมีลักษณะคล้ายกับบ้านที่ล้อมไปรอบด้วยกระจก เพราะฉะนั้นเราจึงจะสามารถมองเห็นวิวสวนมะพร้าวด้านนอกได้ชัดเจนขณะนั่งอยู่ในร้าน ในส่วนของเมนูอาหารก็มีหลากหลาย แต่ที่จะแนะนำว่าหากมาแล้วห้ามพลาดเลยก็คือพายมะพร้าวอ่อน ทานคู่กับ โคโค่ ลาเต้ รับรองอร่อยเข้ากันสุดๆค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. และปิดทุกวันพุธนะคะ

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม 

นิทานกาแฟ Nitaan Coffee

ไม่รอช้าเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือนิทานกาแฟ เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมคลองตลาดท่าคา โดยตัวร้านมีลักษณะเป็นซุ้มไม้ไผ่ที่มีตกแต่งอย่างเรียบง่าย เหมาะกับการมาพักผ่อนดื่มกาแฟ แต่ด้วยพื้นที่ในร้านไม่ได้กว้างมาก ซึ่งจะไม่ได้มีโซนที่นั่งให้เลือกเยอะ แต่หากมาแนะนำให้มานั่งหย่อนขาชมวิถีชีวิตของคนท่าคา และสำหรับเมนูแนะนำก็จะเป็นกาแฟสดอาราบิกา และพวกเมนูชาอย่างชาดำ ชาเย็น ชามะนาวที่รสชาติเข้มข้นถึงใจ ร้านเปิดให้บริการทุกวันเสาร์ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 16.00 น. นะคะ

ตั้งอยู่ที่ : ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

เพลินวิว ชิวพุง

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือเพลินวิว ชิวพุง เป็นคาเฟ่กึ่งร้านอาหารในบรรยากาศร่มรื่น เพราะตั้งอยู่กลางสวนมะพร้าวและสวนกล้วย เมื่อมาเยือนที่นี่เราจะได้มานั่งชมวิวพร้อมหย่อนเท้าชมสวนให้อาหารปลา ในส่วนของเมนูอาหารก็มีทั้ง ตำข้าวโพด น้ำตกหมู กุ้งอบเนย ปีกไก่ทอด ต้มยำกุ้ง และอีกหลายเมนู เหมาะมากที่จะพาครอบครัวมาพักผ่อนทานอาหารกันในวันหยุด ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 21.00 น. นะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในสมุทรสงคราม ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนสมุทรสงคราม คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : g.page/HiJaiThink?share 

#ร้านน่านั่ง #คาเฟ่สมุทรสงคราม #รีวิวคาเฟ่

  หากเราพูดถึง ร้านอาหารสไตล์เชฟเทเบิล แน่นอนว่าในประเทศไทย ก็ถือว่ามีให้พบเจอ และ ให้มาลองชิมฝีมือกันเยอะ อยู่นับไม่ถ้วนเลยก็ว่าได้ โดยในวันนี้ทางเรานั้นก็จะพาทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับ ร้านอาหารเชฟดัง สไตล์ เชฟเทเบิล ที่ขอบอกเลยว่าชีวิตนี้ ก่อนตายจะต้องมาลองดูสักครั้ง 

      และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปมากกว่านี้ล่ะก็ เราก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่า ร้านอาหารสไตล์เชฟเทเบิล ที่เรานำมารู้จักกันในวันนี้จะมีร้านไหนบ้าง ถ้าหากใครที่พร้อมแล้ว ก็ไปดูกันได้เลย

1. Chef Next Door

      มาเริ่มกันที่ร้านแรก กับ ร้านอาหารเชฟดัง สไตล์ เชฟเทเบิล ที่มีชื่อว่า Chef Next Door โดย้ร้านนี้ก็ถือว่า เป็นอีกร้านที่น่าสนใจ และ น่ามาลองทานสักครั้งในชีวิตมาก ๆ นั่นก็เพราะว่าร้านนี้ จะตั้งอยู่ที่ ย่านลาดพร้าว โดยเชฟเป็นอดีตเชฟจากร้านอาหารมิชลินสตาร์ มาเป็นผู้ปรุงเมนู แสยอร่อยที่ได้ทานแล้ว จะไม่มีวันลืมกันเลยทีเดียว โดยร้าน Chef Next Door ก็จะมีทั้งหมด  8 คอร์ส Course Private Dinner Tasting Menu ซึ่งจะอยู่ที่ราคา 1800บาทต่อขึ้น หรือ 1800ขึ้นไป แต่ขอบอกเลยว่าร้าน Chef Next Door ถือว่าเป็น ร้านอาหารสไตล์ เชฟเทเบิล ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก  สำหรับใครที่อยากจะลอง มาหาประสบการณ์ ในการทานอาหาร และ เมนูใหม่ ๆ ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ทางเรานั้นก็ขอแนะนำเลย สำหรับ Chef Next Door ย่านลาดพร้าว

2. Food Hub Home 

      สำหรับร้านที่สองของ ร้านอาหารเชฟดัง สไตล์ เชฟเทเบิล ก็จะมีชื่อว่า Food Hub Home นั่นเอง โดยร้านนี้ก็จะเป็น ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ลับย่านเจริญนคร ที่มีรสชาติและ เมนูที่เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ โดยจะเป็นร้านที่มีการเสิร์ฟ เมนูที่หลาย ๆ คนนั้นชื่นชอบ และ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ เนื้อวากิว และซีฟู้ด รวมถึงเมนูอื่น อีกมากมาย 

       โดยร้าน Food Hub Home ก็จะมีทั้งหมด  7 คอร์ส และ 9 คอร์ส โดยจะเปลี่ยนเมนู ไปตามซีซันนั่นเอง บอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบ เนื้อวากิว และซีฟู้ด ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านที่ไม่ควรมาก ๆ สำหรับ ร้านอาหารเชฟดัง สไตล์ เชฟเทเบิล ที่มีชื่อว่า Food Hub Home โดยร้านนั้นก็จะเป็นบ้านของเชฟนั่นเอง ใครที่อยากไปลองทานกับร้าน Food Hub Home ล่ะก็ ต้องจองเป็นเดือนกันเลยก็ว่าได้เลยทีเดียว สำหรับร้านนี้ 

เครดิตภาพ : pantip

#เชฟโชว์ของ #ร้านอร่อยต้องลอง #ร้านดัง

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในดอยสะเก็ด อำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด โดยดอยสะเก็ดมีความเจริญทางเศรษฐกิจเป็นลำดับต้นๆของเชียงใหม่เลย เพราะว่าเป็นเส้นทางสำคัญที่สามารถเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังจังหวัดเชียงรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านศิลปะ วัฒนธรรม แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่มากมายอีกด้วย ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Brick Box Pool Villa & Cafe

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือBrick Box Pool Villa & Cafe เป็นคาเฟ่ในบรรยากาศธรรมชาติ เพราะเมื่อเราเดินเข้ามาในเขตร้านเราก็จะพบกับทุ่งนา ต้นไม้ใหญ่ และบ่อน้ำธรรมชาติ โดยตัวร้านมีการตกแต่งเป็นเรือนกระจก มีโซนให้เลือกนั่ง 2 โซนคือห้องแอร์ด้านใน และโซนลานด้านนอก เมนูแนะนำจะเป็นนม โกโก้ ลาเต้ ทางร้านใช้นมสดคุณภาพดีของจังหวัดเชียงใหม่มาทำเลยนะคะ แนะนำว่าหากใครอยากจิบเครื่องดื่มอร่อยๆท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติก็ต้องมาเยือนที่นี่เลยค่ะ

Hom Doi Coffee by หอมดอย

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือHom Doi Coffee by หอมดอย เป็นร้านกาแฟที่คั่วกาแฟขายเอง เพราะร้านมีโรงคั่วกาแฟที่ขายทั้งเมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟดริป และกาแฟรูปแบบขวดพร้อมดื่ม โดยความพิเศษของที่นี่ก็คือเราสามารถเลือกระดับการคั่วของเมล็ดได้เอง ไม่ว่าจะเป็นอ่อน กลาง เข้ม ตามความชอบ โดยเมนูพิเศษของร้านก็คือการนำเชอร์รีกาแฟมาทำเป็นชาเปลือกกาแฟ แล้วนำมาชงเป็นเครื่องดื่มเมนูเชอร์รีกาแฟน้ำผึ้งมะนาว นั้นเองค่ะ

ตั้งอยู่ที่ : ดอยสะเก็ด เชียงใหม่

สวนองุ่นอิ่มสุข Imsook Grape Farm

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือสวนองุ่นอิ่มสุข Imsook Grape Farm เป็นคาเฟ่ใต้ต้นองุ่น ที่มีบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยเมนูส่วนใหญ่จะใช้องุ่นเป็นวัตถุดิบ เช่น น้ำองุ่นคั้นสดๆ นอกจากนี้ยังมีกาแฟสดจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าให้ได้เลือกชิมกันอีกด้วย และบริเวณร้านจะมีการตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย
ตั้งอยู่ที่ : ดอยสะเก็ด เชียงใหม่

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในดอยสะเก็ด ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนดอยสะเก็ด คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : facebook.com/brickboxdoisaket

#ดอยสะเก็ด #ร้านเด็ดต้องลอง #แนะนำคาเฟ่

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในเมืองปัว ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน ห่างจากตัวอำเภอเมืองน่านไปประมาณ 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า โดยความพิเศษของเมืองนี้ก็คือเป็นเมืองสีเขียวในหุบเขาที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ นอกจากนี้ก็ยังมีคาเฟ่บรรยากาศดีอีกมากมาย ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

สกาด กม.8

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือสกาด กม.8 เป็นคาเฟ่และที่พักในดอยสกาด อำเภอปัว และเนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่บนดอย เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องบรรยากาศเลย โดยไฮไลท์ของที่นี่ก็คือระเบียงชมวิวที่เราสามารถมานั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวภูเขาดอยสกาดได้แบบ 360 องศา ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มและขนมก็มีหลากหลาย แต่ที่อยากจะแนะนำก็คือพวกเมนูกาแฟทั้งหลายค่ะ เพราะทางร้านใช้เมล็ดกาแฟชั้นดีนั้นเอง เวลาเปิด-ปิดร้านจะเปิดทุกวันวันจันทร์ 14.00-17.00 น. และวันอังคาร-อาทิตย์ 09.30-17.00 น. นะคะ

นาตาทา ฟาร์มสเตย์ แอนด์ คาเฟ่  

ไม่รอช้าเรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือนาตาทา ฟาร์มสเตย์ แอนด์ คาเฟ่ เป็นคาเฟ่และที่พักในสไตล์ฟาร์มสเตย์กลางบรรยากาศทุ่งนา โดยความพิเศษของที่นี่ก็คือตัวร้านจะถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาและธรรมชาติ จุดไฮไลท์คือบันไดที่ทอดยาวไปด้านบนซึ่งเราสามารถขึ้นไปชมวิว ถ่ายรูปในส่วนนี้ได้นะคะ ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มก็อยากจะแนะนำกาแฟสด ส่วนอาหารขอแนะนำเป็นพิซซ่าโฮมเมดที่ทางร้านทำเองสดใหม่ทุกวัน โดยร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น

Ban Tai Lue Café กาแฟบ้านไทลื้อ

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือกาแฟบ้านไทลื้อ โดยที่นี่เป็นร้านกาแฟโฮมเมดของร้านลำดวลผ้าทอ เพราะฉะนั้นนอกจากที่นี่จะขายกาแฟแล้วก็ยังมีของที่ระลึกและผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณ ของดีเมืองปัวขายอยู่ด้วยนั้นเอง โดยร้านเปิดทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในเมืองปัว ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนเมืองปัว คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : hellowinter.com, th.worldorgs.com

#เมืองปัว #ร้านเด็ดต้องไป #รีวิวคาเฟ่