Tag: ร้านเด็ดเดลิเวอรี่

เด็ดทุกเมนู รับประกันความอร่อย

ใครที่เป็นสายสตรีทฟู้ด ชอบทานอาหารโต้รุ้ง คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ กับร้านโหงว โภชนา ร้านข้าวต้มชื่อดังที่อยู่ย่านรังสิต เปิดขายมามากกว่า 30 ปี เมนูอาหารมีเป็นร้อย และทีเด็ดของร้านนี้ก็คือไก่เผ็ดเม็ดมะม่วง ถ้ามากินแล้วไม่สั่ง ก็เหมือนมาไม่ถึง บรรยากาศร้านก็แนวร้านข้าวต้มบ้าน ๆ ทั่วไป อาจจะไม่หรูหรา แต่มีเสน่ห์ และรสชาติอาหารก็เลื่องชื่อ แค่บอกต่อ ๆ กัน ใคร ๆ ก็อยากมาลิ้มลอง ยิ่งในโซนรังสิต ปทุมธานี เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักร้านดังร้านนี้

มากกว่าการทานอาหาร ก็คือความทรงจำดี ๆ ที่ส่งต่อแบบรุ่นสู่รุ่น แม้ว่าจะเจอโควิดทำพิษไปบ้าง แต่พอร้านกลับมาเปิดก็ได้กระแสตอบรับดีเหมือนเดิม แน่นเต็มทุกโต๊ะ ราคาอาหารจะมีตั้งแต่ 90- 250 บาท มาทานกันหลายคนจะยิ่งสนุก เพราะได้เลือกหลายเมนู ผลัดกันชิมคนละนิดละหน่อย จะทานคู่กับข้าวต้ม หรือข้าวสวย ก็อร่อยเข้ากันได้ดี 

ทำความรู้จักร้าน “โหงวโภชนา รังสิต”

ไปทำความรู้จักกับเมนูของทานร้านกันเลยดีกว่า อย่างแรกที่ต้องสั่ง ก็คือ เมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วง ทางร้านผัดได้กลมกล่อม รสกำลังดี มีกลิ่นหอม เหมือนทานในภัตคารจีนเลยล่ะ ไก่กระเทียม กุ้ยช่ายขาวผัดน้ำมันหอยใส่หมูกรอบ ผัดผักบุ้งไฟแดง ตัวผักกรอบ สด อร่อยมาก ๆ มีหอยลายผัดพริกเผา หมูสับผัดไข่เค็ม กระเพาะปลาผัดแห้ง อีกหนึ่งเมนูอร่อย ที่หาทานยาก ใครชอบทานอาหารทะเล ต้องสั่งกุ้งผัดพริกเกลือ ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ปลาหมึกผัดผงกะหรี่ มะระผัดไข่ และผัดแขนงหมูกรอบ 

เมนูเด็ดร้าน “โหงวโภชนา รังสิต”

• ยำปลาสลิด ยำกุนเชียง ยำไข่แดงเค็ม ยำเห็ดฟาง 
• ยำปูม้า 
• ยำก้านคะน้า 
• ยำหมูยอ 
• ยำหมูกรอบและยำไส้ตัน 

ต่อมาจะเป็นเมนูปลา จะมีปลาสด ๆ ตัวโต บริการทุกวัน ทั้งเมนูปลากะพงทอดน้ำปลา ปลากะพงนึ่งมะนาว ปลาเก๋าทอดสามรส ปลาทับทิมทอดกระเทียม และปลาช่อนลุยสวน

ปิดท้ายกันที่เมนูต้ม ๆ มีความแซ่บ เข้มข้น ทั้งต้มโคล้ง ต้มยำรวมมิตร เลือกได้เลยว่าชอบแบบน้ำข้น น้ำใส โป๊ะแตก ต้มจืดไข่น้ำ ต้มจืดวุ้นเส้น และอย่าลืมลองเมนูไข่เจียวกุ้งสับ ไข่เจียวหมูสับ ออส่วน แหนมซี่โครงทอด หมูทอดแดดเดียว และกุ้งอบวุ้นเส้นหม้อดิน

พิกัดร้านตั้งอยู่ ตรงแยก 1 ในซอยพหลฯ 135 ฝั่งตรงข้ามเมเจอร์รังสิต สามารถติดตามราคาเมนูได้ที่เพจเฟซบุ๊ก โหงวโภชนา ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 14:00 – 23:00 ช่วงค่ำคิวจะแน่น อาจจะต้องรอคิวนานเล็กน้อย แต่คุ้มค่าความอร่อยแน่นอน

เครดิตภาพ : fbโหงวโภชนา

#ร้านอร่อยต้องสั่ง #โหงวโภชนา #ร้านเด็ดต้องลอง

สวัสดีค่ะนักท่องเที่ยวทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วในวันนี้ทางเราก็มีคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อในจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นจังหวัดที่มีอาณาเขตทางใต้ติดกับประเทศมาเลเซีย เป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ที่ไม่ติดทะเล และเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเชิงธรรมชาติ และวัฒนธรรม รวมไปถึงคาเฟ่ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้คัดสรรคาเฟ่มาให้ทุกคนถึง 3 คาเฟ่ด้วยกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลย

Que Sera Sera

มาเริ่มกันเลยกับคาเฟ่แห่งแรกของวันนี้นั้นก็คือQue Sera Sera เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่เมื่อเราเข้ามาเราก็จะสัมผัสได้ถึงความน่ารัก และความอบอุ่น โดยทางร้านมีการการออกแบบตกแต่งตัวอาคารร้านทรงจั่วสไตล์โมเดิรน์ ภายในปลอดโปร่งสบายๆ มีเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายแต่สวยงาม ในส่วนของอาหารร้านก็จะขึ้นชื่อในเรื่องของเค้กเพราะในการทำเค้กแต่ละชิ้นร้านจะบรรจงออกแบบตกแต่งหน้าได้อย่างน่ารักและน่ากิน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอาหารตามสั่ง อาหารจานเดียวและเครื่องดื่มทั้งร้อน-เย็นอีกด้วยนะคะ

ตั้งอยู่ที่ : อำเภอเมืองยะลา ยะลา 

ร้านตู้กาแฟ

เรามาต่อกันเลยกับคาเฟ่ต่อมานั้นก็คือร้านตู้กาแฟ เป็นคาเฟ่ร้านกาแฟเล็กๆที่ตั้งอยู่ชั้นล่างของ You House โดยบริเวณร้านจะมีบรรยากาศร่มรื่นไม่วุ่นวาย เพราะทำเลที่ตั้งของร้านอยู่ในช่วงกลางซอยมหาภาส คนเลยไม่วุ่นวายค่ะ ซึ่งการมานั่งชิลจิบกาแฟที่ร้านนี้เราจะได้บรรยากาศเหมือนมานั่งจิบกาแฟใต้ต้นไม้ในบ้านเลย ในส่วนของเครื่องดื่มก็จะขึ้นชื่อเรื่องเมนูกาแฟเพราะทางร้านจะเลือกคัดสรรเมล็ดพันธุ์กาแฟและเครื่องชงที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ลูกค้าได้รับรสชาติกาแฟชั้นเยี่ยมนั้นเองค่ะ

 Luna Coffee

เดินทางมาถึงคาเฟ่สุดท้ายของวันนี้กันแล้วนั้นก็คือLuna Coffee เป็นคาเฟ่ที่ในอดีตเคยเป็นโรงหนังเก่าแก่ของจังหวัดยะลา ชื่อว่าโรงหนัง ลูน่า มาก่อน ร้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองยะลาริมถนนสายหลักห่างจากห้างสรรพสินค้าโคลีเซี่ยมเพียงแค่ข้ามถนน ด้วยทำเลทำให้ลูกค้าที่มาส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่มาพบปะพูดคุยงานกันนั้นเองค่ะ โดยเมนูแนะนำของทางร้านก็คือ ลูน่า ลาเต้ ในราคาเริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับคาเฟ่ในยะลา ที่เราคัดสรรมาให้ทุกคน น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหม หวังว่าหากทุกคนได้ไปเยือนยะลา คงจะชอบกันนะคะ

เครดิตภาพ : thailandtourismdirectory.go.th, facebook.com/queseraserayala

#เที่ยวยะลา #ร้านคาเฟ่ #แนะนำคาเฟ่ยะลา

เยาวราชจัดเป็นย่านซื้อขายสินค้าที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมีสินค้าให้เลือกซื้อได้อย่างจุใจแล้วยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย และที่นี่ก็มีเรียกได้ว่าเป็นชุมชนชาวจีนที่อยู่ใจกลางเมือง ทำให้ในช่วงเทศกาลต่างๆ อย่างเช่นวันตรุษจีน เยาวราชจะคร่าคร่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะพี่น้องชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทย แต่ที่นี่ก็ไม่ได้มีดีแค่มีสินค้าจำหน่ายมากมายเพียงเท่านั้น ยังมีร้านอาหารอร่อยเปิดขึ้นหลายแห่งอีกด้วย อย่างเช่น ร้านก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่ใครเดินทางไปเยาวราชมักจะต้องแวะไปลองลิ้มชิมรสชาติกันอยู่เสมอ 

เมนูเด็ดของทางร้าน 

สำหรับเมนูเด็ดของทางร้านไม่ต้องบอกหลายคนก็คงน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าก็คือก๋วยจั๊บนั่นเอง ส่วนจุดเด่นก็คือหมูกรอบของที่นี่จะกรอบมากไม่เหนียว เพราะทางร้านใช้วิธีการทอดจนได้ที่ แถมน้ำซุบยังมีรสชาติเผ็ดร้อนของพริกไทยดำ ถ้าใครมาซดในช่วงอากาศเย็นๆ คงฟินพอสมควร แต่ในช่วงอากาศร้อนก็ช่วยให้หายใจโล่งคอได้เช่นกันค่ะ แต่เด็กๆ อาจจะรู้สึกเผ็ดไปซะหน่อย สำหรับผู้ใหญ่เรียกได้ว่ารสชาติกำลังดีเลยทีเดียว ภายในชามจะเสิร์ฟมาพร้อมกับเส้นก๋วยจั๊บที่เหนียวนุ่ม เครื่องในหั่นชิ้นพอดีคำไม่เหม็นคาว สำหรับเมนูที่นิยมสั่งกันก็คือ ก๋วยจั๊บหมูกรอบ ก๋วยจั๊บรวมทุกอย่าง นอกจากนี้ยังสามารถสั่งแบบธรรมดา หรือพิเศษ ได้อีกด้วย และจะใส่ไข่ไม่ใส่ไข่ก็แจ้งกับทางร้านได้เลย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีปาท่องโก้ให้กินแก้มกับก๋วยจั๊บอีกด้วย ปกติเรามักจะกินกับข้าวต้ม ลองมากินคู่กับก๋วยจั๊บก็อร่อยใช้ได้ แต่ต้องบอกก่อนด้วยว่าก๋วยจั๊บให้ค่อนข้างเยอะและราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับความอร่อยบอกได้เลยว่าคุ้มค่ามากๆ 

บรรยากาศภายในร้าน

ร้านก๋วยจั๊บนายอ้วนจะตั้งอยู่ริมฟุตบาท มีโต๊ะให้นั่งกินได้ โต๊ะจะตั้งตลอดแนวฟุตบทเช่นเดียวกัน บริเวณนี้จะเป็นทางเข้าโรงภาพยนตร์ ไชน่าทาวน์รามา ซึ่งมีคนกระซิบบอกว่าโรงหนังยังเปิดให้บริการอยู่นะคะ ใครอยากเห็นบรรยากาศโรงหนังแนวย้อนยุค มาดูที่นี่กันได้เลย เวลานั่งทานอาจรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปนั่งกินอาหารในช่วงยุค 80 ภายในร้านมีเก้าอี้ให้นั่งได้หลายโต๊ะ แต่ก็จะแน่นตั้งแต่ร้านเปิด ใครมาต้องบอกว่าอยากกินของอร่อยต้องรอกันหน่อยนะคะ ก๋วยจั๊บนายอ้วนจะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 03.00 น. 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานก๋วยจั๊บ อาจเคยมีร้านในดวงใจมาบ้างแล้ว แต่เราอยากให้ลองมาชิมของร้านนี้ บอกเลยว่ารสชาติจะแตกต่างจากที่คุณเคยกินมาอย่างแน่นอน

เครดิตภาพ : food.trueid.net, structurefunding.com

#ก๋วยจั๊บเจ้าดัง #อ้วนโภชนา #ร้านอร่อยต้องลอง

ผัดไทยเป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนนิยมรับประทานกัน แต่ทราบกันไหมค่ะว่าเริ่มต้นเดิมทีจะมีชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวผัด และเป็นเมนูอาหารที่ค่อนข้างเก่าแก่พอสมควร เพราะเริ่มมีมาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กันเลยทีเดียว โดยท่านจอมพล ป. พิบูลสงคราม มีแนวคิดอยากให้มีอาหารประจำชาติเกิดขึ้น และในช่วงสงครามก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นช่วงที่ข้าวยากหมากแพง จึงได้คิดว่าทำเมนูอาหารที่มาจากเส้นก๋วยเตี๋ยวน่าจะดีกว่า ผู้คนจะได้เข้าถึงง่าย จึงคิดค้นสูตรจนมาเป็นผัดไทยที่เราเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ และร้านทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี ก็เป็นร้านเก่าแก่ในการขายผัดไทย เพราะเปิดมาเป็นเวลายาวนานหรือก็คือตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2509 เรียกได้ว่า 50 กว่าปี กันเลยทีเดียว

เมนูอาหารน่าสนใจ

อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าร้านนี้เป็นร้านผัดไทย ดังนั้นเมนูขึ้นชื่อของทางร้านก็คือผัดไทยนั่นเองค่ะ ผัดไทยที่นี่จะมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร เพราะเป็นสูตรของทางเจ้าของร้านที่สืบทอดมาจากคุณแม่ เส้นผัดไทยเหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม เมนูผัดไทยมีให้เลือกหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ผัดไทยเส้นจันท์แบบธรรมดาและแบบใส่ไข่, ผัดไทยเจ, ผัดไทยเส้นจันท์มันกุ้ง ใส่ไข่, ผัดไทยเส้นจันทร์ มันกุ้ง กุ้งสด ห่อไข่, ผัดไทยเส้นจันท์ มันกุ้ง กุ้งสด ใส่ไข่, ผัดไทย ไม่ใส่เส้น ใส่ไข่, ผัดไทยเส้นจันท์ทรงเครื่อง ปู ปลาหมึก, และ ผัดไทย วุ้นเส้น ทรงเครื่อง ปู ปลาหมึก ซึ่งราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 60 บาท และแพงสุดที่ 300 บาท เวลาเสิร์ฟผัดไทยยังมาพร้อมผักเคียงต่างๆ อาทิเช่น ถั่วงอก มะนาว กุ๊ยช่าย และหัวปลี เป็นต้น นอกจากผัดไทยเมนูต่างๆ ที่เรากล่าวไปแล้วกว่า 10 เมนู รายการน้ำเช่น น้ำมะพร้าวปั่น และน้ำส้มคั้น ของที่นี่ก็เรียกได้ว่าขึ้นชื่อเช่นกันค่ะ ใครมาชิมจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารสชาติอร่อยหอมชื่นใจ 

เคยเป็นกันมั้ย เวลาตกค่ำ ท้องมันเริ่มหิว ยิ่งดึกก็ยิ่งหิว ถ้าเผลอเลื่อนฟีดไปเจอเพื่อน ๆ โพสต์ภาพอาหาร ทำให้ยิ่งกระตุ้นน้ำย่อยให้กระเพาะ จนต้องรีบออกมาหาอะไรกินตามบ้าง ยามดึกแบบนี้ไม่มีอะไรจะดีเท่าข้าวต้มโต้รุ่งแน่ ๆ วันนี้เลยจะพาไปลองกินข้าวต้มร้านดังในย่านสามเสน อยู่ตรงข้ามกรมชลประทาน พิกัดก็หาง่าย เป็นร้านข้างทางชิล ๆ มีเสน่ห์มาก ๆ สมกับที่ไทยเราเป็นดินแดนแห่งสตรีทฟู้ด ร้านนี้ก็คือ “ข้าวต้มเจ๊มุก” เสน่ห์คือของร้านต้มก็คือความวุ่นวาย คิวแน่น และต้องรออาหารสักเล็กน้อย ยิ่งหลังครัววุ่น ๆ วันนั้นอาหารยิ่งอร่อยถูกปาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 

สำหรับร้านข้าวต้มเจ๊มุก ต้องบอกว่ามีชื่อเสียง และดังในโซเชียลมาก ๆ ติตดามได้จากเพจข้าวต้มเจ๊มุก จะมีแอดมินมาอัพเดตภาพเมนูอาหารต่าง ๆ ยั่วน้ำลายมาก เมนูอาหารมีให้เลือกมากกว่า 50 เมนูแน่นอน เยอะจนตาลาย มีข้าวให้เลือก ทั้งข้าวต้ม และข้าวสวย ตอนนี้ข้าวต้มราคาอยู่ที่ 5 บาท ถือว่าราคาเบา ๆ และอาหารจะอยู่ที่ราคาประมาณ 80 ขึ้นไป แต่ละจานให้เยอะ รสชาติดี ทำอาหารไว ที่นั่งเยอะ แต่ที่จอดรถอาจจะต้องจอดข้างทางบ้าง จอดที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆแล้วเดินมาบ้าง แต่ถึงขนาดไม่มีที่จอด คนก็แน่นทุกวัน ปกติร้านนี้จะเปิดตั้งแต่ 17.00 -02.00 น. โต้รุ่งกันให้สุดไปเลย แต่ถ้าช่วงติดเคอร์ฟิว แนะนำเผื่อเวลาเดินทางด้วย อาจจะขาดหายบรรยากาศโต้รุ่งไปบ้าง แต่รับรองว่ารสชาติอาหาร การันตีความอร่อย 

เมนูเด็ดของร้านนี้ น่ากินไปซะทุกอย่าง ทั้งผัด ต้ม ยำ และทอด อาหารป่าก็มี ถูกใจคนทุกวัย เมนูที่มาแล้วต้องลองกิน คงจะเป็นหมูสับผัดหนำเลี๊ยบ , ผัดคะน้าหมูกรอบ หมูกรอบ กรอบแบบชุ่มฉ่ำ ยิ่งลงไปอยู่ในผัดคะน้าและมีน้ำซอสฉ่ำ ๆ เคลือบไว้ ตอนตักกินในข้าวต้ม ฟินมาก , ยำหมูแผ่น ใส่เนื้อหมูแผ่นกรอบ ๆ  เนื้อแน่น รสชาติกลมกล่อม , ต้มยำรวมมิตร มาแบบถ้วยใหญ่ รสชาติจัดจ้าน , ไส้ตันทอดกระเทียม คือรสชาติหอมมาก มีกลิ่นกระเทียมและทอดได้กรอบ ใคร ๆ ก็ชอบ เพราะสั่งเกือบทุกโต๊ะ , กระเพราะนกสับ จะเน้นผัดแห้ง ๆ พริกจุก ๆ แต่กินกับข้าวสวยแล้วอร่อยเด็ด , กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสด กรอบ และหวาน , ผักยอดฟักแม้ว ก็เป็นเมนูยอดฮิต บางวันหมดไว ใครที่ชอบทานต้องรีบไปหน่อย และยังมีเมนูปลาหมึกผัดไข่แดง , ผัดโป๊ยเซียน ยำปลาสลิดทอด และโป๊ะแตกทะเล 

ราคาอาหารจะเริ่มต้นที่ 80 -250 บาท ถ้ามาทานเป็นกลุ่ม หรือกับครอบครัว คุ้มเลยจริง ๆ อาหารเยอะทุกจาน ราคาย่อมเยาว์ แต่ละวันคิวแน่น ต้องรีบมา อาหารรอไม่นาน ทำรวดเร็วทันใจแม้จะคิวแน่นสุด ๆ ยกให้เป็นร้านข้าวต้มโต้รุ่งใจกลางเมืองที่น่าแวะมาฝากท้องอีกร้านเลยทีเดียว สามารถดูรายละเอียดเมนูและติดตามเส้นทางเพิ่มเติม ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ร้านข้าวต้มเจ๊มุก 

เครดิตภาพ : fbร้านข้าวต้มเจ๊มุก

#ร้านข้าวต้มเจ๊มุก #ร้านอร่อย #ร้านเด็ดสั่งเลย

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพานักชิมทุกคนมาลิ้มลองหมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาทฉบับ Delivery ซึ่งเราได้ใช้บริการ LINEMAN ตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยความหิวโหย ซึ่งอย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าจังหวัดชัยนาทเป็นเมืองที่เล็ก ตอนเช้าตรู่งี้เงียบจนไม่มีรถสักคันแถมร้านอาหารก็ยังไม่ค่อยมีใครเปิดด้วย หิวก็หิวตั้งแต่ตอนยังไม่ 6 โมงเช้าดี สรุปพอ 6 โมงหน่อยก็เริ่มมี LINEMAN วิ่ง แล้วมีแต่ร้านหมูปิ้งโบราณในซอยข้างจวนผู้ว่าที่เปิดเช้ากว่าร้านอื่นจึงจัดไปสักหน่อย จะเด็ดสมคำร่ำลือหรือไม่ไปดูกันเถอะ

เมนูหมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาท

หมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาทเป็นหนึ่งในร้านหมูปิ้งที่เปิดขายเฉพาะตอนเช้าซึ่งความโดดเด่นของหมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาทก็คือ ร้านนี้มีหมูปิ้งให้คุณลูกค้าสามารถเลือกสรรหลายแบบอย่างที่ใจต้องการ ตั้งแต่หมูปิ้งกะทิโบราณสีเหลืองแบบเน้นเนื้อ ,หมูปิ้งกะทิโบราณสีเหลืองแบบเน้นมัน ,หมูปิ้งน้ำปลาน้ำจิ้มแจ่วโคตรแซ่บ ,ไก่ปิ้ง และหมูแดดเดียว ไปจนถึงเมนูอาหารเช้าแบบชุดที่มีพวกไข่ดาวแฮมเบรคฟาสต์ยุโรปและอาหารข้าวกล่องแบบง่าย ๆ อย่างอื่นด้วย แต่จะมาช่วงสายหน่อย ที่มาเช้าคือเมนุเหล่าหมูปิ้งสูตรเด็ดนี่ล่ะ เราเลยจัดการสั่งหมูปิ้งมาครบทีมเลย ราคาไม่แพงด้วย 3 ไม้ 20 บาทเท่านั้น

ลักษณะหมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาท

สำหรับลักษณะของหมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาท เรามาเริ่มต้นกันที่หมูปิ้งกะทิโบราณสีเหลืองก่อน ตัวหมูจะหั่นมาแบบเป็นแผ่นแบน ๆ แต่หนามีการหมักด้วยผงกะหรี่กับกะทิละมุนแล้วนำไปเสียบไม้ปิ้งซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนคงถูกใจมาก เพราะไม่ว่าใครก็โหยหาหมูไม้สีเหลืองในวัยเด็ก ซึ่งหมูปิ้งนี้ตรงตามโจทย์ที่ทุกคนค้นหาเลย เช่นเดียวกับไก่ปิ้งที่เป็นสีเหลืองอมส้มเช่นกัน หากมาชัยนาทแล้วไม่ได้กินหมูปิ้งวัยเด็กคือมาไม่ถึง  ส่วนหมูปิ้งน้ำปลาก็ถูกหั่นเป็นชิ้นยาว ๆ ติดกันโดยมีเนื้อปนมันสีน้ำตาลจากการหมักของน้ำปลาควบคู่มาด้วยน้ำจิ้มแจ่วที่ขาดไม่ได้ 

รสชาติห มูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาท

รสชาติของหมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่าชัยนาทนั้นเราได้ลองกินมาแล้วเรียบร้อยปรากฏว่าอร่อยทุกอย่างสมคำร่ำลือจริงนะ คือหมูปิ้งกับไก่ปิ้งสีเหลืองจะมีความนุ่มและหวานเล็กน้อย ไก่ปิ้งจะเป็นเนื้อแบบเน้น ๆ ส่วนหมูปิ้งน้ำปลาก็มีความเนื้อนุ่มไม่ต่างกันแถมมันหมูยังนิ่มฟินติดใจคนรักความอ้วนอย่างเรามาก ความรู้สึกคล้ายตอนที่กินไก่ย่างอีสานในวัยเด็กเลยแต่แค่เปลี่ยนมาเป็นเนื้อหมู ด้านของน้ำจิ้มแจ่วอาจจะยังรสชาติไม่เข้มข้นพอเพราะขาดความเปรี้ยว มีแต่รสเค็มกับเผ็ดซี๊ดคล้ายซอสภูเขาที่ใส่พริกเข้าไป ถ้าเพิ่มความเปรี้ยวตรงนี้ได้จะอร่อยมากขึ้นไปอีก ยิ่งกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ ห่อละ 5 บาทก็ยิ่งฟิน ใครพลาดมาร้านนี้คือเสียใจแน่

ร้านหมูปิ้งโบราณร้านในซอยข้างจวนผู้ว่า

ที่อยู่ : 140/3 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท 17000

เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.00น. – 08.00น.

หมายเลขโทรศัพท์ : 093 582 6298

#ร้านเด็ดต้องสั่ง #เดลิเวอรี่ #หมูปิ้งชัยนาท